ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เรียกประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม. กำชับรับมือฝนหนัก
วันนี้ (14 พ.ค. 68) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2568 โดยมีวาระสำคัญในการกำชับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝน การถอดบทเรียนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และการควบคุมการค้าหาบเร่แผงลอยอย่างต่อเนื่อง
นายชัชชาติ เริ่มต้นด้วยการกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีโครงการจิตอาสาพระราชทานซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจสำคัญในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงานเป็นทีมอย่างดีเยี่ยม ทั้งในการตรวจสอบความเสียหาย ตรวจสอบอาคาร และการกู้ซากอาคารถล่มในเขตจตุจักร โดยเฉพาะสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและสำนักงานเขตจตุจักร ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อประเมินความพร้อมด้านอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน และทบทวนปรับปรุงการประสานงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับสถานการณ์ฝน นายชัชชาติระบุว่า ปีนี้ฝนมาเร็วและมีปริมาณมาก โดยค่าเฉลี่ยสะสมของปริมาณน้ำฝนสูงเกือบสองเท่าของค่าเฉลี่ย 30 ปี จึงได้กำชับให้ทุกเขตห้ามประมาท ให้เฝ้าระวังในจุดที่มีการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และเร่งรัดงานลอกท่อระบายน้ำ ผู้อำนวยการเขตทุกเขตต้องตรวจสอบจำนวนเครื่องสูบน้ำในพื้นที่และเตรียมความพร้อมในการเดินเครื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดที่อาจมีบุคลากรจำกัด ต้องมีการจัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนปฏิบัติงาน และดำเนินการพร่องน้ำล่วงหน้า นอกจากนี้ เนื่องจากโรงเรียนจะเปิดภาคเรียนในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ หากเกิดฝนตกจนน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด ให้สำนักงานเขตลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เช่น จัดรถบริการรับส่ง
ในส่วนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้สั่งการให้สำนักการโยธาและสำนักการระบายน้ำ ตรวจสอบและดูแลโครงการที่ดำเนินการล่าช้าซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ ขณะที่ถนนสายหลักมีการติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำท่วมแล้ว ส่วนถนนซอยย่อยต่างๆ ให้แต่ละเขตสำรวจและระบุจุดอ่อนหรือพื้นที่น้ำท่วมขังเพื่อเตรียมการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีฝนตกหนัก
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังกล่าวถึงการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยว่า ที่ผ่านมาการดำเนินการเป็นไปด้วยดี แต่พบว่ามีบางจุดที่เริ่มมีผู้ค้ากลับเข้ามาตั้งวาง เช่น บริเวณทางเท้าถนนสุขุมวิท ทางเท้าหน้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และหน้าวัดคณิกาผล จึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ความพยายามที่ผ่านมาสูญเปล่า