BANGKOK

‘ชัชชาติ’ ชี้ ห้องผู้ว่าฯ ยังติดแอร์ แล้วทำไมไม่มีเงินติดแอร์ให้เด็ก

ย้อนฟัง ‘ชัชชาติ’ อภิปรายหลังสภา กทม.ตัดงบห้องเรียนปลอดฝุ่น ชี้ห้องผู้ว่าฯ ยังติดแอร์ แล้วทำไมไม่มีเงินติดแอร์ให้เด็ก มองการลงทุนกับอนาคตของเมืองเป็นเรื่องคุ้มค่า

ภายหลังเมื่อวานนี้ (6 ก.ย.66) ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2566 มีมติเห็นชอบกับผู้สงวนความเห็น ให้ตัดงบประมาณของสำนักการศึกษาในโครงการดังกล่าว ในวงเงิน 219,339,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุม นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อภิปรายถึงประเด็นนี้ว่า การจัดพื้นที่ปลอดฝุ่นให้กับกลุ่มเปราะบางอยู่ในนโยบายหมายเลข 048 จาก 216 นโยบาย โดยเด็กอายุ 1-6 ปี นับเป็นกลุ่มเปราะบาง เป็นช่วงชีวิตที่มีการพัฒนาด้านสมองเร็วที่สุด เป็นจุดสำคัญในการสร้างทรัพยากรที่มีคุณค่าในอนาคต หลายครั้งเราละเลยเด็ก ทำให้การพัฒนาไม่เต็มที่ ทั้งนี้เด็กเล็กมีปัญหาใส่หน้ากากอนามัยยาก ทั้งยังต้องนอนกลางวัน บางโรงเรียนมีแอร์ให้ เด็กก็นอนหลับสนิทเพราะมีห้องปิดล้อม

สำหรับแนวคิดห้องเรียนปลอดฝุ่น ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนมาก เราเน้นเด็กกลุ่มเปราะบาง หลายครั้ง ไปที่โรงเรียนเห็นเด็กอยู่ในห้องร้อน ๆ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ฝุ่นมาก็ต้องมีหน้ากากอนามัยใส่ เราคิดว่าห้องผู้ว่าฯ มีแอร์ได้ แล้วทำไมเด็กที่เป็นอนาคตสำคัญของเมืองถึงไม่มีเงินติดแอร์ให้ อย่างเราเป็นผู้ว่าฯ ถ้ามีฝุ่นก็เข้ามาในห้องเราก็รู้สึกปลอดภัยขึ้น

การลงทุนกับเด็กเป็นเรื่องที่มีประโยชน์และคุ้มค่า ส่วนค่าไฟเป็นเรื่องที่ต้องคิด อนาคตคงต้องมีการติดโซล่าเซลล์ในโรงเรียนมากขึ้น เป็นนโยบายที่เราจะดูพื้นที่ต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการเพื่อติดโซล่าเซลล์เพิ่มขึ้น เชื่อว่าไม่ว่าเด็กรวยหรือเด็กจน น่าจะมีโอกาสที่ได้เรียนในห้องเรียนที่มีสภาพเหมาะสม ไม่ต้องกังวลเรื่องต่าง ๆ ส่วนตัวพร้อมน้อมรับการตัดสินใจของ ส.ก.ทุกท่าน

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ห้องเรียนของเด็กอนุบาลมีขนาด 49-64 ตารางเมตร ทำให้ต้องมีแอร์ 30,000 BTU จำนวน 2 เครื่อง ภายในห้องเรียน

สำหรับ ส.ก.ที่ขอสงวนความเห็นในโครงการโครงการการปรับปรุงห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล 6 กลุ่มเขต ได้แก่ นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง น.ส.รัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ โดยขอให้ตัดงบประมาณ เนื่องจากไม่คุ้มค่ากับงบประมาณในการปรับปรุง และให้ความเห็นว่าการเขียนโครงการต้องเขียนให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.เรื่องเส้นเลือดฝอย การประมาณการเพื่อทำโครงการควรวิเคราะห์ให้สมเหตุผล ซึ่งคำขอรับงบประมาณทุกกลุ่มเขตไม่มีการให้รายละเอียดแต่อย่างใด

นอกจากนี้การปรับปรุงห้องเรียนโดยการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศอาจเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกวิธี ต้นทางการแก้ปัญหาคือการปลูกฝังให้เด็กได้เรียนรู้การปลูกต้นไม้เพื่อกรองฝุ่น ควรปลูกฝังให้เด็กมีความรักและผูกพันกับต้นไม้ และอาจร่วมด้วยการงดกิจกรรมการแจ้ง และการหมั่นทำความสะอาด ทั้งนี้ความปลอดภัยของเด็กเป็นเรื่องสำคัญ แต่การนำเด็กไปไว้ในห้องปรับอากาศตลอดเวลาเหมาะสมและปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงงบประมาณค่าไฟที่จะต้องเพิ่มขึ้นมา อย่างไรก็ตามหากกรุงเทพมหานครจะเสนอโครงการพร้อมรูปแบบการติดตั้งโซล่าเซลล์ในคราวเดียวกันจะเหมาะสมมากกว่า

Related Posts

Send this to a friend