BANGKOK

กทม.ร่วมกับ สปสช.เดินหน้า 3 แนวทางดูแลสุขภาพคนกรุงเทพฯ

เชิญชวนประชากรแฝงกว่า 7 แสนรายในกทม.ลงทะเบียนที่คลินิกชุมชนอบอุ่น เพื่อรับการรักษาในสถานพยาบาลใกล้บ้าน

วันนี้ (7 ก.ค. 66) กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดแถลงข่าว เดินหน้าร่วมดูแลสุขภาพคนกรุงเทพฯ ผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่ 1.เตรียมคลินิกชุมชนอบอุ่น 276 แห่ง รองรับประชากรแฝงกว่า 7 แสนราย ลงทะเบียนใช้สิทธิบัตรทองในกรุงเทพฯ เพื่อได้รับการรักษาใกล้บ้าน ใกล้ใจ 2.เจาะเลือดใกล้บ้าน ลดความแออัดในโรงพยาบาล เพิ่มความสะดวกประชาชน คาดเริ่มได้สิงหาคมนี้ 3.ส่งเสริมใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพฯ พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือ ให้ประชากรแฝงกว่า 7 แสนราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ มาลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลใกล้บ้าน ที่ทำงาน ที่เรียน หรือตรงตามที่พักอาศัย ทั้งนี้สามารถลงทะเบียนได้ที่ คลินิกชุมชนอบอุ่นทั้ง 276 แห่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้บ้านท่าน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “กรุงเทพมหานครเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีประชากรหนาแน่น ซึ่งตามทะเบียนบ้านอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านคน และยังมีประชากรแฝงอีกจำนวนมาก ทั้งที่เข้ามาทำงาน มาเรียน หรือพักอาศัย ซึ่งความแตกต่างระหว่างข้อมูลประชากรตามทะเบียนบ้าน กับประชากรที่มีอยู่จริงทำให้กระทบ กับการจัดสรรทรัพยากรและส่งผลให้การบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ การจัดระบบดูแลสุขภาพ จึงต้องมีความจําเพาะพิเศษ เราได้พยายามคิดว่าจะทำอย่างไร ให้เราได้ข้อมูลที่แท้จริง เพราะการที่กรุงเทพมหานคร จะเป็น Smart City ได้ หัวใจคือต้องมีข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เราบริหารจัดการได้ดี และส่งผลให้เมืองฉลาดขึ้น”

“จากการหารือร่วมกับ สปสช.หลายครั้งพบว่า การจะให้ประชาชนย้ายทะเบียนบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการย้ายหรือไม่ย้าย เป็นสิทธิของประชาชนตัดสินใจ แต่เรื่องสุขภาพ เรื่องบัตรทอง เป็นเรื่องที่น่าสนใจและทำได้เร็วกว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำให้คน ที่เป็นประชากรแฝงในกรุงเทพฯ ลงทะเบียน ให้เราได้ทราบว่าตัวตนของประชาชนเหล่านี้ อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อจะได้จัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม เพราะจริงๆแล้วกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับผิดชอบในแง่ปฐมภูมิ คือเป็นด่านแรกที่ผู้ป่วยจะเข้ามาหา หากเรารู้ว่ามีผู้ป่วยที่แท้จริงเท่าไร บัตรทองเท่าไร ประกันสังคมเท่าไร ข้าราชการเท่าไร ก็จะทำให้สามารถบริหารจัดการข้อมูล งบประมาณ และทรัพยากรต่างๆได้ดีขึ้น จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ โดยมุ่งหวังให้ประชากรแฝง ที่อยู่ในกรุงเทพฯ กว่า 7-8 แสนคน ลงทะเบียนใช้สิทธิบัตรทอง เมื่อเจ็บป่วยจะได้สามารถส่งต่อ ผ่านระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นก้าวแรก ที่ทำให้เกิดการลงทะเบียนคน ที่อยู่ในกรุงเทพฯอย่างแท้จริง”

“โอกาสนี้ ขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือของ สปสช.ซึ่งเป็นมิติที่ดีที่จะทำให้เรา มีข้อมูลที่ถูกต้องและบริหารจัดการข้อมูลได้ดีขึ้น เพราะการจัดสรรงบประมาณหลายส่วน จะเป็นไปตามจำนวนประชากร ซึ่งอนาคตก็จะทำให้เราได้งบประมาณ ที่สอดคล้องกับความต้องการ ของประชาชนในพื้นที่และทำให้เราสามารถดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เชื่อว่าคงจะมีการปรับปรุงรายละเอียด ในการดำเนินการต่างๆให้ดีขึ้นเป็นลำดับต่อไป”

“ในส่วนของแนวทางการดำเนินการ ประกอบด้วยการเปิด ให้ประชากรแฝงกว่า 7 แสนราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน หรือตรงตามที่พักอาศัย เพื่อได้รับการรักษาใกล้บ้าน ใกล้ใจ โดย สปสช.ได้จัดเตรียมเครือข่ายหน่วยบริการ คลินิกชุมชนอบอุ่น 276 แห่ง ไว้รองรับ รวมถึงมีโรงพยาบาลเอกชน ที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการ รับส่งต่อดูแลประชาชนในพื้นที่ และในส่วนของกรุงเทพมหานคร ทางสำนักอนามัยได้เตรียมความพร้อม ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง ทำหน้าที่เป็น Area Manager จัดระบบบริการสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดนวัตกรรมบริการตรวจใกล้บ้าน หรือเจาะเลือดใกล้บ้าน เพื่อช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล และเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่ง สปสช.จะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนสิงหาคมนี้ และการส่งเสริมการใช้งบประมาณ กองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร เช่น ค้นหาผู้มีภาวะพึ่งพิงป่วยติดเตียง ที่จำเป็นต้องใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่จากกองทุนฯ หรือการใช้งบประมาณเพื่อด้านอื่นๆ ที่จำเป็นต่อชุมชน เช่น กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพคนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มแม่และเด็ก การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย เป็นต้น”

“ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้จัดทำนโยบาย เพื่อยกระดับบริการสุขภาพให้กับประชาชน อาทิ การขยายโครงการโรงพยาบาล 10,000 เตียง (Home ward) หมอถึงบ้านผ่าน Telemedicine รถตรวจสุขภาพเชิงรุก หรือ Mobile Medical Unit ส่งเสริมกลไกภาคประชาชนสุขภาพดี ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร การรักษาและส่งตัวผู้ป่วยไร้รอยต่อ ด้วยการบูรณาการข้อมูล เป็นต้น ซึ่งนโยบายและสิทธิประโยชน์ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพ ตามนโยบายให้บรรลุผลสำเร็จได้อีกด้วย”

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “จากนโยบายของกรุงเทพมหานคร ที่ต้องการให้คนทุกคน ที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร ได้มีสิทธิรับบริการทางสุขภาพ เป็นนโยบายที่ทาง สปสช.เห็นด้วย ซึ่งที่ผ่านมาติดปัญหาบางประการ คือ ประชาชนที่อยากลงทะเบียน ไม่มีที่ให้ลง เช่น คนต่างจังหวัดที่ทำงานในกรุงเทพฯ เพียงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น ที่เราอยากจะขอความร่วมมือ จากพี่น้องประชาชนในกลุ่มนี้ ไปลงทะเบียนที่คลินิกชุมชนอบอุ่นทั้ง 276 แห่ง ใกล้บ้านท่าน ซึ่งเมื่อลงทะเบียนแล้ว ท่านจะเป็นผู้มีสิทธิ และสามารถใช้สิทธิในกรุงเทพมหานครได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน สปสช. โทร. 1330 หรือช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ไลน์ สปสช.โดยค้นหาไอดี @nhso หรือไลน์ Traffy Fondue โดยค้นหาไอดี @traffyfondue”

“เราได้ดำเนินการนำร่องมาระยะหนึ่งแล้วพบว่า ระบบมีความพร้อมและไม่วุ่นวาย นอกจากนี้ ตามที่ท่านผู้ว่าฯ ได้กล่าวไว้ว่า “ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญของระบบ” ฉะนั้น หากเราไม่มีข้อมูล การจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรต่างๆก็จะไม่ง่ายนัก จึงขอความร่วมมือประชาชน มาลงทะเบียน ณ คลินิกชุมชนอบอุ่น ซึ่งสามารถลงที่ไหนก็ได้ แนะนำให้ลงใกล้บ้านหรือที่พักอาศัย โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือเปิดแอปพลิเคชัน ThaiD มาเป็นหลักฐานแสดงตัวตน เพื่อขอลงทะเบียน ทั้งนี้ หากประชาชนมีการย้ายที่อยู่บ่อย ใน 1 ปี สามารถเปลี่ยนได้ 4 ครั้ง โดยรองรับการเปลี่ยนทั่วประเทศ”

Related Posts

Send this to a friend