BANGKOK

‘ชัชชาติ‘ โชว์ผลงาน 3 ปี หวังดัน กทม.เป็นเมืองคุณภาพ

ลั่นยืนจุดนี้ได้เพราะประชาชนไว้ใจ ให้คะแนนตัวเอง 5 เต็ม 10 ปัดตอบลงผู้ว่าฯ อีกสมัย ขออยู่ให้ครบ 4 ปีก่อน

วันนี้ (7 พ.ค.68) นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จัดแถลงข่าวเนื่องในวาระทำงานครบรอบ 3 ปี พร้อมจัดเสวนา “ก้าวสู่ปีที่ 4 ขับเคลื่อนกรุงเทพ สู่เมืองแห่งโอกาสและความหวัง” ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

นายคัชัชชาติ เปิดเผยว่า 3 ปีผ่านไปไวมาก แต่จังหวะนี้เหมือนทุกคนเซ็ง ความหวังไม่ค่อยมีทั้งเรื่องแผ่นดินไหว ตึก สตง. สงครามการค้าไทย-สหรัฐอเมริกา การปรับ GDP มีแต่ข่าวร้ายไปหมด คนคงไม่อยากฟังผลงาน แต่สิ่งที่อยากจะพูดคือ 3 ปีที่ผ่านมาเราเห็นความหวังและโอกาสมากมายที่เราจะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงยืนอยู่ในภูมิภาคและโลกอย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่น้อยกว่าใคร ทั้งหมดไม่ใช่ผลงานของผู้บริหาร แต่เป็นผลงานของทุกคนที่ร่วมมือกัน ทำให้ 3 ปีที่ผ่านมามีสิ่งที่ดีเกิดขึ้น

ยกตัวอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ตึกใน กทม.ยังแข็งแรงอยู่ได้ เชื่อว่ามาตรฐานตึกใน กทม.ดี มีแค่ตึกเดียวที่พัง ซึ่งเหตุผลเรากำลังหาอยู่ เป็นความหวังว่ากรุงเทพเจ๋ง แผ่นดินไหวขนาดนี้ตึกยังอยู่ได้ โดยวันที่ 30 มี.ค.68 กทม.ได้เชิญทูต 30 ประเทศมาจัดงาน “We are OK”

นายชัชชาติ แถลงผลงานตลอด 3 ปีผ่าน 5 ประเด็น ประกอบด้วย “ความหวังและโอกาส” นายชัชชาติ เชื่อว่าความร่วมมือกันอย่างจริงจังจะเอาชนะสิ่งที่ยากได้ ยกตัวอย่างระบบราชการที่ล่าช้าเช้าชามเย็นชาม ไม่สนใจประชาชน ไม่ประสานงาน ซึ่งเราแก้ปัญหาด้วยแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เพื่อกระจายอำนาจสู่ประชาชน สร้างความโปร่งใส จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 พบมีประชาชนร้องเรียนผ่าน Traffy Fondue จำนวน 934,961 เรื่อง แก้ไขเสร็จสิ้น 757,354 เรื่อง แก้ปัญหาเฉลี่ยเรื่องละ 1.9 วัน

จัดระเบียบหากเร่แผงลอยนอกจุดผ่อนผันมากกว่า 446 จุด ซึ่งมีจำนวนผู้ค้าลดลงกว่า 5,300 ราย ทั้งตลาดโบ๊เบ๊ ถนนหลังสวน ตลาดลาว หน้าปอเต็กตึ๋งวัดคณิกาผล โครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น ปัจจุบันปลูกไปแล้ว 1,859,894 ต้น คาดว่าหมดวาระน่าจะถึง 2,000,000 ต้น สวน 15 นาทีดำเนินการไปแล้ว 199 สวน สู่เป้าหมาย 500 สวน พัฒนาทางเท้าดี ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 1,100 กิโลเมตร กรุงเทพฯ ต้องสว่างเปลี่ยนไฟ LED ไปแล้วมากกว่า 115,000 ดวงซึ่งตั้งเป้าจะเปลี่ยนอีก 20,000 ดวงในสมัยที่ตนเองเป็นผู้ว่าฯ ปรับปรุงทางม้าลายไปแล้ว 2,100 แห่ง ปรับลดความเร็วสูงสุดในกรุงเทพเหลือ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากสถิติปี 2567 การตายลดลง 9% แต่ในปี 2568 เพียง 3 เดือนแรกของปีพบผู้เสียชีวิตลดลง 16% หรือมีเพียง 193 เคส

โครงการไม่เทรวม ลดประมาณขยะได้กว่า 1,300 ตันต่อวัน ประหยัดค่าเก็บขน 2,000 ล้านบาทและค่ากำจัดขยะ 1,200 ล้านบาท ทั้งยังปรับปรุงภูมิทัศน์คลองใน กทม.และพัฒนาถนนสวย 50 เขต 57 เส้นทางระยะทาง 130 กิโลเมตร

“เทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเมืองได้อย่างรวดเร็ว” เช่น โครงการห้องเรียนดิจิทัล พัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนในสังกัด กทม.ด้วย AI ติดตั้งสัญญาณจราจรแบบอัตโนมัติ 72 จุด ใช้กล้อง AI อ่านป้ายทะเบียนรถบรรทุก ตรวจสอบ Green List เพื่อควบคุม Low Emission Zone เปิดเผยข้อมูลงบประมาณในรูปแบบ Machine readabe การทำ Open data-Open contract เพิ่มความโปร่งใส เปิดการขอใบอนุญาตก่อสร้างแบบออนไลน์ การขอใบอนุญาตทั้งหมดที่สำนักงานเขตต้องเข้าระบบ Online BMAOSS

ตรวจสุขภาพล้านคน ยกฐานข้อมูลสุขภาพขึ้นออนไลน์ นำไปสู่การวางแผนด้านสาธารณสุขของ กทม. Health Tech เพิ่มประสิทธิภาพการส่งต่อผู้ป่วยจนจบกระบวนการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับอบรม AI ให้กับบุคลากร กทม.และตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน AI

”คนรุ่นใหม่คนมีพลังคนมีประสบการณ์ร่วมกันสร้างเมือง“ ยกตัวอย่างเช่น นิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่มาช่วยพัฒนาเว็บไซต์รับฟังความคิดเห็นแก้ไข พ.ร.บ.กรุงเทพ ร่วมกับกลุ่มต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จัดกิจกรรมและเทศกาลตลอดปี นำคนรุ่นใหม่มาเป็นทูตสื่อสาร ร่วมพัฒนาเส้นทางจักรยานร่วมกับภาคีเครือข่ายจักรยาน ตั้งคณะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาพัฒนาเขต และ สภาคนรุ่นใหม่ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 100 คน ทั้งยังจัดกิจกรรม Hackathon เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมออกแบบเมือง

“ความมีน้ำใจ ความเป็นมิตร พหุวัฒนธรรม และการช่วยเหลือกัน” ยกตัวอย่างโครงการ Food Banks ทั้ง 50 เขต สร้างความเชื่อมั่นด้านการเปิดกว้างและความหลากหลายผ่านกิจกรรม Pride Month และสมรสเท่าเทียม นอกจากนี้ กทม.มีการจ้างงานคนพิการเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีการจ้างงานคนพิการ 415 คน โดยเป้าหมายคือจะต้องจ้างงานคนพิการทั้งหมด 636 คนหรือ 1% ของข้าราชการทั้งหมด

“ การเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส” นายชัชชาติ กล่าวว่าปีแรกที่ตนเองเข้ามารับตำแหน่ง เกิดสถานการณ์ฝนตกหนัก 800 มม. เดิมมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมใน กทม. อยู่ 12 จุด แต่เมื่อเกิดเหตุดังกล่าวมีจุดเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเป็น 737 จุด 3 ปีที่ผ่านมาแก้ไขไปแล้ว 70% เชื่อว่าที่ผ่านมาน้ำท่วมลดลงอย่างชัดเจน เนื่องจาก กทม.เตรียมรับมือน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง

เหตุการณ์รถบรรทุกน้ำหนักเกินทำถนนชำรุดที่ซอยสุขุมวิท 64/1 กทม.ได้จัดสรรงบประมาณซื้อเครื่อง จับน้ำหนักบนสะพานและตั้งด่านจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน จับได้กว่า 1,200 คัน เพื่อส่งให้ศาลดำเนินคดีต่อ หรือเหตุการณ์ลู่วิ่ง ที่เป็นวิกฤตความโปร่งใส กทม.ขันนอตเข้มงวดกับกระบวนการงบประมาณทั้งขาขึ้นขาลง ร่วมมือกับ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ ป.ป.ง.เพื่อตรวจสอบผู้กระทำผิด จากข้อมูลปี 66-67 กทม. ลงโทษไล่ข้าราชการทุจริตแล้ว 28 คน

นายชัชชาติ กล่าวว่าผลงานแสดงถึงความหวังและโอกาสที่ทำให้เมืองได้ดีขึ้น โดยหัวใจของการทำงาน เราเริ่มจากเมืองน่าอยู่ แต่เรามีปัญหาประสิทธิภาพ ดังนั้น กทม.ต้องเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตและเป็นเมืองที่มีประสิทธิภาพ หัวใจคือ ความไว้วางใจ (Trust) หากเราไม่มีความไว้วางใจก็ยากที่จะหาภาคีเครือข่าย เรายืนตรงนี้ได้ 3 ปี เพราะเขาไว้วางใจว่าเราเอาจริง

“ถ้าเราไม่มี Trust ก็ยากที่จะเดินต่อ ผมเป็นผู้ว่าฯ วันแรก งบประมาณไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือประชาชนไม่ไว้ใจ 3 ปีคือกระบวนการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราไว้วางใจประชาชน ประชาชนไว้ใจเรา ก็เป็นพลังที่จะขับเคลื่อน”

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่าหลักในการสร้างความไว้วางใจคือ “การคิดดี ทำดี และความเข้าอกเข้าใจ” ยกตัวอย่างการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68ภายใน 35 นาที พร้อมกับมีการให้ข้อมูลสื่อสารที่ชัดเจนทั้งคนไทยและแรงงานชาวต่างชาติ มีข้อสั่งการพร้อมกับเปิดสวนสาธารณะ 24 ชั่วโมงเพื่อดูแลประชาชนที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ ร่วมมือกับ AirBnb จัดหาที่พักให้ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวฟรีใช้เครดิตรวม 8,540 คืน พร้อมกับแจ้งปัญหาทางร้าวผ่าน Traffy Fondue กว่า 20,000 เคส ซึ่งมีวิศวกรอาสากว่า 130 คนช่วยตรวจตรวจสอบอาคาร กทม.ยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยประสานงานแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

สำหรับโครงการสำคัญในอนาคต นายชัชชาติ มีแผนที่จะใช้เทคโนโลยีในการขับเคลื่อนสนับสนุนรถเมล์ให้เข้าถึงในทุกชุมชน Bangkok Public Square พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อประชาชน แก้ไข พ.ร.บ.กรุงเทพ Business Lab เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีพื้นที่ขายของทั้งแบบ Online Onsite เจรจาคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้รัฐบาลเป็น Single Owner ใช้บัตรใบเดียวให้ได้ สร้างหอศิลป์ฝั่งธนา ซึ่งเริ่มออกแบบไปแล้ว

แก้ปัญหาจราจรด้วยระบบสัญญาณไฟอัตโนมัติและศูนย์ควบคุมข้อมูลกลาง เดินหน้าขยายบริการสาธารณสุข เช่นก่อสร้างโรงพยาบาลในเขตภาษีเจริญ สายไหม และทุ่งครุ Personalize Education เน้นการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาศึกษา แยกขยะทั้งระบบ สวนสาธารณะใหม่ และศูนย์กีฬาใกล้เมือง ขยาย Low Emission Zone ให้ครอบคลุมทั่วกรุงเทพ

“งานของเราไม่ใช่แค่การการเมืองเท่านั้น แต่ยังต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และความหวังในระบอบประชาธิปไตย”

ในช่วงตอบคำถามสื่อมวลชน นายชัชชาติ ขอให้คะแนนตนเองแค่ 5 คะแนน เพราะมีเรื่องอื่นที่ต้องปรับปรุง และทำได้ดีก็มี จึงขอให้ประชาชนให้ดีกว่า ส่วนจะลงเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการอีกสมัยหรือไม่ ตนเองยังไม่รู้ ขอรอก่อนคงต้องให้ครบวาระก่อน ดูว่ายังมีพลังหรือไม่

จากนั้นนายชัชชาติ ได้หันไปถามว่านายวิศณุ และาองว่าผู้ว่าฯ คนอื่น ๆ ว่าจะลงผู้ว่าฯ หรือไม่ ก่อนจะกล่าวน้ำคำเดิมว่า ยังตอบไม่ได้ขอให้รอ 4 ปีก่อน พร้อมยืนยันว่าไม่มีการปรับตัวทีมงาน

Related Posts

Send this to a friend