BANGKOK

‘ชัชชาติ’ ยันไม่ยกเลิกเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ เพียงแต่สั่งทบทวน

‘ชัชชาติ’ ยันไม่ยกเลิกเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ เพียงแต่สั่งทบทวน ขอบคุณ ‘อัศวิน’ ทำโครงการไว้ดี

วันนี้ (5 ม.ค.66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงประเด็นการหยุดให้บริการเรือโดบสารพลังงานไฟฟ้า (EV) ที่คลองผดุงกรุงเกษม โดยยืนยันว่า เราทำต่อ เพียงแต่ต้องประเมินสถานการณ์ เป็นตัวอย่างที่ทำได้ดี ขอบคุณ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ที่ทำไว้เป็นอย่างดี เรารับโครงการต่อมา แต่ต้องดูว่าคุ้มต่อการเดินเรือหรือไม่ เพราะคนใช้บริการน้อย โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 มีผู้โดยสาร 5,000 คนต่อเดือน และประมาณ 14,000 คนต่อเดือนก่อนปิดให้บริการเมื่อเดือนกันยายน 2565 ค่าใช้จ่ายด้านบริการต่อเดือนราว 2,400,000 บาท เฉลี่ยคนละ 171 บาทต่อเที่ยว ซึ่งแพงมาก จึงต้องประเมินทางเลือกอื่นที่ทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลง

“ท่านทำโครงการดี ๆ ไว้เยอะ ผมไม่มีนโยบายไม่ต่อ แต่สุดท้ายต้องประเมินสถานการณ์ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป ต้องขอบคุณหลายโครงการที่ท่านทำไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคลองผดุงฯ คลองโอ่งอ่าง ที่จัดงานดิวาลี ถ้าไม่มีท่านคงไม่ได้จัด ไม่มีว่าเป็นผลงานใคร เรามารับไม้ต่อ ต้องขอบคุณหลาย ๆ เรื่องที่ท่านทำ”

สำหรับแนวทางการให้บริการเรือโดยสารไฟฟ้าที่คลองผดุงกรุงเกษม การจัดเก็บค่าโดยสารต้องติดตั้งระบบจัดเก็บ ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจมากกว่าค่าโดยสารที่ได้ สำคัญคือ จะหาลูกค้าอย่างไร นักท่องเที่ยวที่อาจใช้บริการเพิ่มมากขึ้น เป็นวิธีที่ต้องพิจารณาความเป็นไปได้

นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่ได้ยกเลิก พยายามดูให้คุ้มค่า ให้เงินที่ใช้ได้ประโยชน์กับประชาชนสูงสุด ส่วนตัวเคยนั่งเรือที่คลอผดุงกรุงเกษมกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มันใช้เวลานาน เรือช้านิดหนึ่ง เพราะเร่งความเร็วไม่ได้ นั่งรถริมคลองเร็วกว่า ส่วนที่มีกระแสว่า นักเรียนส่วนใหญ่ใช้บริการ ได้มอบให้นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สำรวจดูว่านักเรียนเหล่านี้ได้รับผลกระทบหรือไม่ แต่มีทางเลือกการเดินทางในหลายเส้นทาง ก็น้อมรับทุกคำวิจารณ์ เราไม่ได้ตั้งใจยกเลิก มีโอกาสเป็นไปได้ อาจจะลองเดินเรือทดสอบในช่วงสั้น ๆ 3 เดือนก่อน

ทั้งนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2566 แล้ว 140,000,000 บาท สำหรับให้บริการเดินเรือระยะที่ 2 ตั้งแต่เมษายน 2566 – กรกฎาคม 2570 แม้เรือจะมีอายุนาน แต่มีความเสื่อมของแบตเตอรี่ จึงอาจต้องรีโนเวทใหม่ ส่วนที่หลายคนถามว่า เรือซื้อมาแล้วทำอะไร มันเป็นแนวคิดของต้นทุนจม (Sunk Cost) ซื้อมาเสียเงินมาแล้ว แต่ถ้าการทำต่อเสียเงินเพิ่ม ต้องคิดว่า ทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เราไม่มีอคติ ขอบคุณที่ได้ดำเนินโครงการ แต่เป็นเรื่องความต้องการ อาจจะต้องมีโปรโมชั่น

Related Posts

Send this to a friend