‘ชัชชาติ’ สั่งตรวจสอบคุณภาพรถ-คนขับเข้ม กรณีรถบัสนักเรียน
‘ชัชชาติ’ เผยปีงบฯ 67 กทม.เก็บภาษีเกินเป้า สั่งตรวจสอบคุณภาพรถ-คนขับเข้ม กรณีรถบัสนักเรียน เตรียมตั้งกรรมการพิจารณา TOR จ้างรถทัศนศึกษาให้เป็นมาตรฐาน ย้ำ ยังไม่ได้สั่งการให้หยุด แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสม
วันนี้ (3 ต.ค. 67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 10/2567 ว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามงานต่าง ๆ โดยเรื่องแรกคือเรื่องรายรับของ กทม. ในปีงบประมาณที่ผ่านมา (2567) ซึ่งงบประมาณของ กทม. สมดุลทั้งรายรับ-รายจ่าย โดยตั้งงบรายจ่ายไว้ 90,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่ารายรับจะได้ 90,000 ล้านบาท ปรากฎว่ามีรายรับประมาณ 94,000 ล้านบาท เนื่องจากเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้เพิ่มขึ้น ทำให้เรามีเงินเหลือไปลงเงินสะสมจ่ายขาด ถือว่าเก็บภาษีได้เกินเป้า
สำหรับกรณีรสบัสนักเรียน ในส่วนของรถบัสของกรุงเทพมหานครจะมี 2 ส่วน คือ รถของเราเอง เช่น สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีรถประมาณ 80 คัน เพื่อจัดนักกีฬาไปแข่งจังหวัดต่าง ๆ ได้สั่งการว่าต้องเข้มงวดเรื่องการตรวจคุณภาพทั้งในแง่ของรถและคนขับ
ส่วนรถที่ออกไปทัศนศึกษา ต้องทบทวน TOR ที่จ้าง เพราะจ้างคนนอกมา ได้สั่งการให้ทบทวนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาแต่ละโรงเรียนอาจออก TOR ไม่เหมือนกัน โดยให้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ทั้งจะใช้รถแก๊สหรือไม่ การตรวจสอบอุปกรณ์ความปลอดภัย จะใช้รถสองชั้น หรือรถชั้นเดียว ต้องให้ชัดเจน ซึ่งจะมีคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาให้ดถี่ถ้วนอีกครั้ง
นายชัชชาติ กล่าวว่า การทัศนศึกษาของ กทม. ได้รับเงินที่รัฐบาลให้มา 300 บาทต่อหัว ส่วนใหญ่เป็นการทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ ไปไกลสุดแค่ดรีมเวิลด์ ถ้าเป็นเด็กเล็กก็มาที่สยาม ส่วนใหญ่จะมีรถตำรวจนำทุกครั้งเพราะเดินทางไปจำนวนมาก ฉะนั้น จึงสั่งการให้ทบทวนความเหมาะสมในกรณีเด็กเล็ก เช่น อนุบาล ว่ามีความเสี่ยงตรงไหน จะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยอย่างไร ทั้งนี้ ยังไม่ได้สั่งการให้หยุด แต่ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ด้านกิจกรรมลูกเสือเนตรนารี กทม. มีค่ายที่ดอนเมืองกับที่ทุ่งครุ ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก คงให้หลีกเลี่ยงต่างจังหวัดให้มากที่สุด ซึ่งบางครั้งก็มีจุดที่อาจเป็นอันตรายได้
“ในภาพรวมคือ กทม. เน้นเรื่องการตรวจมาตรฐานความปลอดภัยของรถ โดยเฉพาะรถของเราเองที่มีอยู่ ต้องทำให้มั่นใจ รถจะต้องผ่านการตรวจทั้งโดยกองโรงงานช่างกลของ กทม. และโดยกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกองโรงงานช่างกลจะต้องตรวจให้ดีกว่ามาตรฐานข้างนอกเสียก่อน ส่วนการตรวจของข้างนอกก็ให้เป็นไปตามกฎหมายที่จะต้องมีการนำรถไปตรวจประจำอยู่แล้ว” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวทิ้งท้าย