BANGKOK

‘ชัชชาติ’ ขึ้นรถปราศรัย รับหนังสือ ‘สลัม 4 ภาค’ พร้อมรับฟังข้อเรียกร้องปัญหาที่อยู่อาศัย

ชี้ ปัญหาที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องนำหารือกับรัฐบาล เตรียมเร่งผลักดันอีกโครงการเพื่อรองรับกลุ่มเปราะบางให้มีสิทธิเท่าเทียมกับคน กทม.

วันนี้ (2 ต.ค. 66) เวลา 09:00 น. ที่ลานคนเมือง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รับหนังสือเครือข่ายสลัม 4 ภาค ที่มาจัดกิจกรรม “เดินเพื่อบ้าน” เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี2566 และยื่นข้อเรียกร้องต่อหน่วยงาน กทม. เพื่อขอให้ช่วยเหลือในการจัดที่ดินที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

โดยข้อเรียกร้องของเครือข่ายสลัม 4 ภาค ที่ยื่นต่อ กทม. ประกอบด้วย

1.ให้ กทม. เป็นหน่วยงานในการขอที่ดินสาธารณะ และที่ดินของหน่วยงาน กทม. เพื่อให้ชุมชน จัดสร้างที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีโครงการบ้านมั่นคง ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนเข้ามาสนับสนุน

2.กทม. ต้องหยุดใช้กฎหมาย ปว.44 ที่มาจากอำนาจเผด็จการ และลิดรอนสิทธิมนุษยชน ในกระบวนการยุติธรรม และให้มีกระบวนการยกเลิก ปว.44 นี้

3.ให้มีมาตรการที่ชัดเจน เพื่อให้ชุมชนสามารถปรับปรุง สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยที่เดิมได้ โดยมีหลักเกณฑ์ที่ประกอบด้วย ต้องเป็นชุมชน ที่ปลูกบ้านเรือนไม่ลุกล้ำคลอง หรืออยู่ในสภาพที่ขัดขวางการระบายน้ำ และมีพื้นที่ในการปรับปรุงผังการอยู่อาศัยใหม่ให้เป็นระเบียบ ไม่ขัดขวางการระบายน้ำ รวมถึงเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่เสื่อมสภาพแล้ว ไม่สามารถใช้ในการระบายน้ำได้ ให้ชุมชนจัดผังการอยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่เดิม

4.ในกรณีชุมชนไม่สามารถอยู่ที่เดิมได้ ให้ กทม. ขอใช้ที่ดินสาธารณะในเมือง เพื่อเป็นพื้นที่รองรับการย้ายไปสร้างชุมชนใหม่

5.ให้ กทม. สนับสนุน และสำรวจชุมชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ริมคลอง ในเขต กทม. ร่วมกับเครือข่ายภาคีองค์กรชุมชน สถาบันพัฒนาองค์ชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ได้ข้อมูลชุมชนที่ชัดเจน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา

6.ให้ชุมชนในพื้นที่ กทม. สามารถจดแจ้งชุมชนได้ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัย และแรงงานที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร ได้เข้าถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตพื้นฐาน และ กทม. สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการทำแผนการพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7.ให้มีนโยบายการเก็บภาษีรายแปลงย่อยตามการอาศัยอยู่จริง หรือตามทะเบียนบ้านของผู้อยู่อาศัยในโครงการ

8.จัดทำข้อมูลชุมชนในโครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่ กทม. ร่วมกัน (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน, กทม. และองค์กรชุมชน)

9.ต้องการการสนับสนุนจาก กทม. ในเรื่องอำนวยการ การจัดสร้างที่อยู่อาศัย ในโครงการบ้านมั่นคง และการพัฒนาสาธารณูปโภค

10.ให้แจ้งนโยบายการสนับสนุนโครงการบ้านมั่นคง และประสานงานกับสำนักงานเขต ให้มีการสนับสนุน และมี แผนการพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่ร่วมกัน ระหว่างองค์กรชุมชน สำนักงานเขต และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน

11.มีการดำเนินการนำร่องห้องเช่าราคาถูกย่านหัวลำโพง ร่วมกับ สสส. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และกำลังดำเนินการที่ศูนย์คนไร้บ้าน จ. ปทุมธานี และก่อสร้างแล้วเสร็จที่ซอย เลียบวารี 79 เขตหนองจอก จึงต้องการ การสนับสนุนจากกรุงเทพมหานครในการสร้างรูปธรรมที่อยู่อาศัยเช่า ราคาถูกให้หลากหลาย รองรับผู้เช่าห้องในเมือง และสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยเช่าราคาถูก สำหรับคนเริ่มต้นทำงาน ของกรุงเทพมหานคร

12.กรุงเทพมหานครจะดำเนินการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเช่าราคาถูกอย่างไร เริ่มดำเนินการในช่วงเวลาไหน ซึ่งทางเครือข่าย และหน่วยงานภาคีต่างๆ จะมีส่วนร่วมได้อย่างไร

13.มีการดาเนินการพัฒนานโยบายห้องเช่าราคาถูก ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน และภาคีต่างๆ (ตามเอกสารแนบ) ซึ่งต้องการความร่วมมือจากหน่วยงานกรุงเทพมหานคร ในการบูรณาการ และเพิ่มศักยภาพใน การพัฒนานโยบาย และรูปธรรม

14.ให้แจ้งไปยังสำนักงานเขต ให้ดำเนินการสร้างความเข้าใจกับชุมชนที่ต้องรื้อย้าย ให้รับรู้และย้ายชื่อไปไว้ใน ทะเบียนบ้านอื่นที่มี

15 .กรณีที่จะย้ายไปสร้างชุมชนใหม่ในโครงการบ้านมั่นคง ให้สำนักงานเขตออกทะเบียนบ้านให้ก่อน 1 หลัง เพื่อ รองรับผู้ที่จะรื้อย้ายไป และเมื่อสร้างบ้านเสร็จ ก็สามารถดำเนินการย้ายเข้าทะเบียนบ้านของตัวเองได้

ด้านนายชัชชาติ ขึ้นรถปราศรัย พร้อมกล่าวกับกลุ่มมวลชนที่เดินทางมายื่นข้อเรียกร้อง ระบุว่า สำหรับเรื่องที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราไม่มีที่อยู่อาศัยที่เป็นหลักแหล่ง ก็จะทำให้ยากต่อการพัฒนาชีวิตในด้านต่างๆ ให้มีคุณภาพได้ โดยย้ำว่า กทม. ไม่ได้มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่เป็นของหน่วยงานอื่น ซึ่งโครงการหลักๆ ที่ดำเนินการอยู่ที่บริเวณคลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว ที่ทำบ้านมั่นคงอยู่ โดย กทม. จะพยายามเดินหน้าโครงการเหล่านี้อย่างเต็มที่

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่ารัฐบาลใหม่มา ก็จะมีการรับฟังพวกเราได้อย่างดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ กทม. จะนำไปหารือกับรัฐบาล ซึ่งเรามีคณะทำงานที่นายกฯ จัดตั้งขึ้นมาในการแก้ไขปัญหา ส่วนโครงการที่ทำอยู่แล้ว เราจะเร่งดำเนินการต่อ ซึ่งบางโครงการอาจจะช้าแต่จะเร่งทำให้โดยเร็วที่สุด

สำหรับเรื่องการจัดชุมชน ที่มีไม่ถึง 100 หลังคาเรือน ที่ไม่ได้รับอนุญาติ หรือติดปัญหาต่างๆ เราก็จะจัดชุมชนพิเศษให้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิต่างๆ ที่ชุมชนอื่นๆ จะได้รับ รวมถึงเรื่องการจัดการปัญหาสาธารณูปโภค ที่ยังเข้าไม่ถึงในหลายชุมชน ก็จะมีการเร่งสั่งการให้แก้ปัญหาดังกล่าว และเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังในการแก้ไขปัญหาเรื่องภาษีที่ดิน

นอกจากนี้ อาจจะมีการสร้างในพื้นที่ที่เป็นของ กทม. จัดใหัมีห้องเช่าราคาถูก เพื่อให้กลุ่มเปราะบางมีที่อยู่ชั่วคราว เพื่อให้สามารถมีรายได้เพื่อมีที่อยู่ถาวรต่อไป ส่วนเรื่องการอยู่อาศัยในพื้นที่ของหน่วยงานอื่น ก็อาจจะต้องมีการหารือร่วมกัน หากสามารถร่วมมือกันได้เชื่อว่าจะมีทางออกให้กับทุกคน

นายชัชชาติ ยังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า กทม. ดำเนินการร่วมกับ พอช. มาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังติดปัญหาอยู่บางชุมชน เพราะมีบางชุมชนไม่ยอมย้ายออก จึงต้องมีการขอความร่วมมือกัน เนื่องจากหลักการของเราไม่ใช่การไล่รื้อ แต่เป็นการให้ออกโดยความสมัครใจ ส่วนบางโครงการที่เอาพื้นที่ที่หมดสภาพไปแล้ว มาเป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งโครงการก็ผ่านกระบวนการไปเยอะ เชื่อว่าเหลืออยู่เพียงช่วงสุดท้าย ก็จะสามารถนำประชาชนเข้าไปอยู่ได้ แต่มีบางพื้นที่ที่ยังลุกล้ำลำคลอง จึงไม่สามารถให้ได้ และจะต้องมีการประสานกันอีกครั้ง

ทั้งนี้ การดูแลด้านต่างๆ เป็นสิ่งพื้นฐาน เพราะเราต้องการคนในเมืองเพื่อขับเคลื่อนเมือง หากอยู่ไกลจะทำให้พวกเขาไม่สามารถแบกรับค่าเดินทางได้ไหว จึงเห็นว่าเรามีชุมชนกระจายทั่ว กทม. ซึ่งเราจะต้องหาวิธีการดูแลคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ได้ เช่นห้องเช่าราคาถูก หาก กทม. มีที่ก็ต้องดูความเป็นไปได้ในการสามารถสร้างห้องเช่าราคาถูกให้กับพวกเขา ส่วนเรื่องสวัสดิการต่างๆ เราก็ให้ตามพื้นฐาน ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ซึ่งมีการดูแลเช่น ศูนย์สาธารณสุข และการฝึกสร้างอาชีพให้ เพื่อให้พวกเขามีสิทธิปกติ เหมือนกับคน กทม. ทั่วไป

Related Posts

Send this to a friend