นายอลัน เจียง กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดไชน่า บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า การเติบโตของเทคโนโลยีล้วนเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานของผู้บริโภคทั้งในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป และกลุ่มลูกค้าองค์กรต่างมีความต้องการใช้งานด้านเทคโนโลยีที่ต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นความล้ำสมัยทางด้านต่างๆ ความอัจฉริยะเพื่อความสะดวกสบายรวมถึงการทำในสิ่งที่เหนือความสามารถของมนุษย์ เราจะได้ยินเรื่องของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), แมชชีน เลิร์นนิ่ง ไฮบริด คลาวด์ บล็อกเชน เอดจ์ คอมพิวติ้ง รวมถึงเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ มากขึ้น ในขณะที่ เทคโนโลยี 5G ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของ “ดิจิทัลทรานฟอร์มเมชั่น” ที่จะมาช่วยขับเคลื่อนเทคโนโลยีต่างๆ ให้กลายเป็นความจริง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เอเซอร์เห็นโอกาสและศักยภาพของเอเซอร์ในการนำเสนออุปกรณ์ โซลูชั่นต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ใช้งานมีความพร้อมและความมั่นใจในการใช้งานด้านต่างๆ ด้วยการนำเสนอผ่านกลยุทธ์ “Dual Transformation”
Dual Transformation เป็นการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับเทรนด์ เทคโนโลยี ความต้องการของผู้ใช้งานเอเซอร์นำจุดแข็งทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการ โดยร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่จะช่วยในการยกระดับและสร้างประสบการณ์ตรงให้กับผู้บริโภคทำให้เกิดธุรกิจใหม่ (Create Multiple Business engine) ขณะที่ในด้านของคอนซูเมอร์นั้น การใช้งานที่มีความต้องการใช้งานเฉพาะด้าน หรือเฉพาะกลุ่มที่ทำให้เกิด Micro Trend ก็ช่วยผลักดันให้เกิดแบรนด์ใหม่ขึ้นมา (From Product to Brand) เอเซอร์เราเป็นหนึ่งในผู้นำคอมพิวเตอร์ที่มองเห็นโอกาสในตลาดของผู้เล่นเกมที่ต้องการเครื่องที่มีดีไซน์ที่เร้าใจ มีสเปคสูงสำหรับการเล่นเกม เราเข้าใจถึงความต้องการและได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับการเล่นเกมในนามของ Predator เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผู้เล่นเกม จากความสำเร็จของแบรนด์ Predator เอเซอร์ได้ทำการสอบถามผู้ใช้งาน Predator ได้พบว่ามีผู้ใช้งานกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ใช้งาน Predator สำหรับการการเล่นเกม แต่ใช้งาน Predator ในการทำงานด้านคอนเทนต์ ทั้งการออกแบบ ตัดต่อ ภาพ วิดีโอต่างๆ นั่นจึงจุดประกายให้เกิดแบรนด์ ConceptD ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานสายครีเอเตอร์ ทั้งหมดนี้ เอเซอร์มองว่าจะช่วยยกระดับและสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับองค์กรและผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
นาย อลัน กล่าวเสริม