อาดิดาส เปิดตัว AL HILM ลูกฟุตบอลสำหรับรอบรองชนะเลิศ ฟีฟ่า เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022
นายนิค แคร็กส์ (Nick Craggs) ผู้จัดการทั่วไปของอาดิดาส ฟุตบอล ล่าสุดเปิดตัวลูกฟุตบอล สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศของฟีฟ่า เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022 โดยมาในชื่อว่า “อัล ฮิล์ม (Al Hilm)” ที่แปลว่า “ความฝัน” ในภาษาอาหรับ เพื่อให้มีความหมายเชื่อมโยงกับลูกฟุตบอล “อัล ริห์ลา (Al Rihla)” ที่แปลว่า “การเดินทาง” ซึ่งถูกใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาก่อนหน้านี้
นายนิค กล่าวว่า “ลูกบอลทั้งสองรุ่น ได้แก่ “อัล ฮิล์ม” (Al Hilm) และ “อัล ริห์ลา” (Al Rihla) ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ในอากาศ ได้เร็วกว่าลูกฟุตบอลลูกอื่นๆ ที่เคยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก พร้อมทั้งรองรับการตอบสนองความเร็ว ของการแข่งขันในระดับสูงสุด โดยลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม มาพร้อมกับลวดลายกราฟิกอันโดดเด่น ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ อย่างฟีฟ่าเวิลด์คัพ ในรอบสุดท้าย
ลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” ได้รับการออกแบบให้มีพื้นผิวสีทอง บนแพทเทิร์นสามเหลี่ยมสะดุดตา โดยดีไซน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจ มาจากประกายระยิบระยับของทะเลทราย ซึ่งโอบล้อมรอบเมือง สีของถ้วยรางวัลฟีฟ่า เวิลด์คัพ และลวดลายของธงชาติกาตาร์ พร้อมแต่งเติมความสมบูรณ์แบบด้วยกราฟิกสีแดงเข้ม เพื่อให้สะท้อนภาพสถาปัตกรรม และธงชาติกาตาร์ได้อย่างลงตัว
ทั้งนี้อาดิดาสได้นำข้อมูล จากผลการทดสอบอย่างละเอียด ในห้องทดลองของอาดิดาส อุโมงค์ลม และสนามแข่งขัน มาใช้ในการออกแบบลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” ซึ่งลูกบอลนี้มีชิ้นส่วนและพื้นผิวสัมผัสเช่นเดียวกับลูกฟุตบอล “อัล ริห์ลา” ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้าดังนี้
1.CTR-CORE หรือแกนกลางแบบใหม่ที่อยู่ภายในลูกบอล ที่มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความมั่นคง และความเร็วในการเล่น ด้วยรูปทรงและการกักเก็บอากาศสูงสุด
2.SPEEDSHELL พื้นผิวลูกฟุตบอลทำจากวัสดุโพลียูรีเทน (Polyurethane) มีผิวสัมผัสขนาดเล็กบนชิ้นส่วนรูปแบบใหม่จำนวน 20 ชิ้น ช่วยพัฒนาความแม่นยำ เสถียรภาพของการเคลื่อนที่ในอากาศ และการยิงลูกฟุตบอลแบบโค้งให้ดียิ่งขึ้น
อาดิดาสได้นำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อย่าง “Connected Ball” มาไว้ในลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” เช่นเดียวกับลูกฟุตบอล “อัล ริห์ลา” ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง ในการช่วยให้เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน สามารถทำการตัดสินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ จากการรวมข้อมูลตำแหน่งผู้เล่นเข้ากับเทคโนโลยี ดังกล่าวจะช่วยให้ทีม Video Assistant Referees หรือ VAR สามารถทำการตัดสินใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำข้อมูลการติดตาม ลูกฟุตบอลที่เซนเซอร์ ภายในจับไว้ได้ มารวมกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงทำให้เทคโนโลยี Connected Ball สามารถทำหน้าที่แจ้งเตือน การล้ำหน้าอัตโนมัติให้กับทีม VAR ได้อีกด้วย ทั้งนี้ลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ด้วยการใช้น้ำหมึกและกาว ที่มีส่วนประกอบจากน้ำเป็นหลัก ดังนั้น ลูกฟุตบอล “อัล ฮิล์ม” จึงถือเป็นลูกฟุตบอล สำหรับฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศลูกแรกที่ใช้การผลิตในลักษณะนี้”