คาเธ่ย์ แปซิฟิค สานต่อโครงการ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น”
สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค เดินหน้าปลูกต้นไม้ในป่าชายเลน 20,000 ต้น ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีนี้ ตามเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ต่อบัตรโดยสาร 1 ใบที่มีการจำหน่าย ระหว่างจัดแคมเปญ “บิน 1 เที่ยว ปลูก 1 ต้น” ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าจะปลูกต้นไม้ ในป่าชายเลนจำนวน 6,000 ต้นในประเทศไทย
และเนื่องในวันที่ 22 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นวันคุ้มครองโลก (Earth Day) อาสาสมัครจำนวนกว่า 60 คน ประกอบด้วยพนักงานของคาเธ่ย์ แปซิฟิค ผู้แทนการค้า และพันธมิตรอื่นๆ ได้ร่วมกิจกรรมปลูกต้นแสมขาว 6,000 ต้น ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีนักเรียนที่มีความบกพร่องทางสายตา 8 คน จากมูลนิธิคอลฟิลด์ เพื่อคนตาบอด เข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ตั้งเป้าหมาย ที่จะปลูกต้นไม้ 1 ต้น ต่อการจำหน่ายบัตรโดยสาร 1 ใบ ในประเทศฟิลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์
นางสาวเคอรี ลุย ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สานต่อโครงการปลูกต้นไม้ในประเทศไทย ที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด และเล็งเห็นว่าผู้พิการมักไม่ได้ มีส่วนร่วมในกิจกรรมเหล่านี้ เนื่องจากอาจถูกมองว่ามีข้อจำกัดในด้านต่างๆ อย่างไรก็ตามอนาคตของโลกของเราเกี่ยวข้องกับทุกคน เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดโอกาสให้ผู้ที่บกพร่องทางสายตา ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นก้าวเล็กๆ ในการสร้างสรรค์สังคมแห่งการมีส่วนร่วม ที่ทุกคนสามารถมีบทบาทในการผลักดันด้านความยั่งยืน และจุดประกายให้คนในชุมชน ได้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อไป”
ด้าน พันเอกดิตถ์ สูยะนันทน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู กล่าวว่า “การอนุรักษ์ป่าชายเลน ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้และการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรที่มีแนวความคิดเดียวกับเรา อย่างคาเธ่ย์ แปซิฟิค ในการดำเนินกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในครั้งนี้”
นายเครื่อง ศรีบัวพันธุ์ ประธานมูลนิธิคอลฟิลด์ เพื่อคนตาบอด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักเรียนของเราได้เป็นส่วนหนึ่ง ของกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคม ร่วมกันกับคาเธ่ย์ แปซิฟิค มูลนิธิของเราให้ความสำคัญ กับการสร้างทักษะให้แก่นักเรียน เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ผมเชื่อว่าประสบการณ์ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ความภาคภูมิใจ และช่วยให้แก่นักเรียนทุกคนได้ตระหนักว่า พวกเขาก็สามารถมีบทบาทในอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน”