SOCIAL RESPONSIBILITY

ซีล ผนึก สิงห์อาสา สร้างหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ฝึกเข้ม 5 วัน 5 คืน ก่อนลงพื้นที่ช่วยชีวิตคน

สิงห์อาสา ร่วมกับ หน่วยซีล หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ สร้างหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำขั้นสูง รับอาสากู้ภัยหลายจังหวัดที่ผ่านการคัดเลือกเพียง 20 คนต่อรุ่น ฝึกเข้ม 5 วัน 5 คืน เติมทักษะกู้ชีพและกู้ภัยทางน้ำเพิ่มโอกาสช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุ

จัดอบรมหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ให้กับอาสาสมัครกู้ภัย 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการกู้ภัยทางน้ำ ทั้งในแม่น้ำและทะเล เป็นการเตรียมความพร้อมให้เหล่าอาสาสมัครกู้ภัยก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตประชาชน

เมื่อวันที่ 17-21 ส.ค. 65 สิงห์อาสา โดยมูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี และบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ร่วมกับ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) จัดอบรม “หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ประจำปี 2565” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อเสริมศักยภาพในการกู้ภัยน้ำลึกให้กับทีมอาสากู้ภัยทางน้ำทั่วประเทศ ให้มีความเชี่ยวชาญสามารถรักษาชีวิตผู้ประสบภัยและชีวิตของตนเองขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยในแต่ละปีมีการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ได้เพิ่มหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำขั้นสูงที่ตอบโจทย์ภารกิจกู้ภัยมากยิ่งขึ้น ณ ศูนย์ฝึกสงครามพิเศษทางเรือ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ สัตหีบ

คุณอรรถสิทธิ์ พรหมสุข ผู้จัดการฝ่ายงานกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ เป็นหลักสูตรที่ทางสิงห์อาสาร่วมมือกับหน่วยซีลมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แต่ในปีนี้ได้สร้างหลักสูตรพิเศษเป็นปีแรก คือ การดำน้ำกู้ภัยขั้นสูง ต่อยอดจากหลักสูตรอบรมกู้ภัยทางน้ำที่สร้างขึ้น เน้นช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ที่มีความกดดันสูง เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้าอบรมในครั้งนี้ได้ จะต้องเป็นคนที่ผ่านการอบรมภาคปกติที่สิงห์อาสาทำร่วมกับหน่วยซีลมาก่อนหน้านี้ ซึ่งหลักสูตรนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยทีมครูฝึกเชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยทางน้ำของหน่วยซีล โดยเป้าหมายคือ ความสามารถในการรักษาชีวิตของผู้ประสบเหตุทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันผู้ที่ทำหน้าที่ในการกู้ภัยเองก็จะต้องปลอดภัยเช่นกัน”

นาวาเอก อนันท์ สุราวรรณ์ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ เผยว่า “พวกเราทุกคนที่เป็นทหารเรือ นอกจากมีภารกิจที่ดูแลพี่น้องประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติแล้ว นอกจากนั้นเราทุกคนต้องการนำสิ่งที่เป็นความชำนาญของพวกเรา ส่งต่อให้กับพี่น้องอาสาสมัครกู้ภัยที่ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุทั่วประเทศ ดังเช่น หลักสูตรกู้ภัยทางน้ำ ที่ถูกออกแบบมาใน 2 ระดับ เพื่อสร้างความรู้ความชำนาญในการดูแลความปอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัยรอด กู้ภัยก็ต้องรอด ทุกคนมีครอบครัวรออยู่ที่บ้าน หน้าที่ของครูฝึกเชี่ยวชาญด้านการกู้ภัยทางน้ำคือทำให้กู้ภัยมั่นใจว่าหลักสูตรจะช่วยป้องกันได้ทุกชีวิต โดยในปีนี้ได้มีการเพิ่มหลักสูตรให้ครอบคลุมทุกสถานการณ์ที่เหล่ากู้ภัยต้องพบเจอกับภัยทางน้ำมากยิ่งขึ้น เช่น ฝึกดำน้ำเวลากลางคืน ฝึกการดำน้ำลึก 30 เมตร ฝึกการดำเรือจมแบบไม่เข้าไปในตัวเรือ 30 เมตร เป็นต้น การอบรมหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำจึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้เหล่าอาสาสมัครก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจ”

สำหรับหลักสูตรกู้ภัยทางน้ำขั้นสูง ประจำปี 2565 มีอาสาสมัครกู้ภัยผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมอบรมในรุ่นนี้ 20 คน ซึ่งจะได้รับการฝึกทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติจริง โดยหลักสูตรในครั้งนี้จะฝึกตั้งแต่การกู้ภัยระดับผิวน้ำ การจำลองสถานการณ์ดำน้ำในช่วงกลางคืน เพื่อทดสอบการใช้เครื่องมือกู้ภัยต่างๆ รวมทั้งการฝึกกู้ภัยน้ำลึกระยะ 30 เมตร ฝึกการดำเรือจมแบบไม่เข้าไปในตัวเรือ 30 เมตร เพื่อให้กู้ภัยมีทักษะ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงและสามารถดูแลชีวิตตนเองและคนในทีมอาสากู้ภัยได้เป็นอย่างดี

Related Posts

Send this to a friend