สองนักสู้ชีวิต คนขับ ‘Grab’ พลิกวิกฤตการเงิน สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว

วันนี้ (19 พ.ค. 68) เรื่องราวของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอย่าง Grab ไม่เพียงอำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการ แต่ยังเป็นช่องทางสร้างรายได้และพลิกฟื้นชีวิตให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย เช่นเรื่องราวของคนขับ Grab สองราย ที่เปลี่ยนวิกฤตการเงินสู่ชีวิตที่มั่นคง สามารถส่งเสียบุตรหลานให้สำเร็จการศึกษา และปลดเปลื้องภาระหนี้นอกระบบได้สำเร็จ

นายพงษ์ศักดิ์ คันธโชติ หรือ พี่ฮาท วัย 50 ปี อดีตพนักงานในต่างแดนที่รายได้หยุดชะงักจากผลกระทบของโควิด-19 ในปี 2563 ทำให้ขาดรายได้ในช่วงที่ลูกสาวกำลังศึกษาคณะแพทยศาสตร์ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง พี่ฮาทตัดสินใจเริ่มขับ GrabFood ตามคำแนะนำของคนใกล้ชิด แม้รายได้ช่วงแรกจะไม่มากนัก แต่ก็ช่วยให้ครอบครัวพอตั้งหลักได้ เมื่อประสบปัญหาค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของบุตร เขาได้รู้จักและใช้บริการ “Grabการเงิน” ซึ่งช่วยให้คนขับเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยได้รับสินเชื่อเงินสดกว่า 40,000 บาท มาเป็นทุนหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายจำเป็น ด้วยความมุ่งมั่นและขยันขันแข็ง พี่ฮาทสามารถทำผลงานจนได้ระดับ “เทพแกร็บไบค์” ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม และที่สำคัญที่สุดคือสามารถส่งลูกสาวเรียนจบแพทย์ได้สำเร็จตามความตั้งใจ

อีกหนึ่งเรื่องราวมาจาก นางสาวชุติกาญจน์ เผ่าผาง หรือ พี่อ้อ วัย 45 ปี คุณแม่ลูกหนึ่งที่เคยทำงานเป็นพนักงานบัญชี ก่อนที่กิจการจะประสบปัญหาจนต้องออกจากงานประจำ ผันตัวมารับงานฟรีแลนซ์แต่รายได้ยังไม่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวและหนี้นอกระบบที่ก่อตัวขึ้น พี่อ้อจึงเริ่มขับ Grab เป็นอาชีพเสริมในช่วงปลายปี 2566 เพื่อหารายได้เพิ่มเติม ต่อมาเมื่อต้องการเงินก้อนสำหรับค่าเทอมลูกและจัดการหนี้นอกระบบประมาณ 50,000 บาท เธอตัดสินใจขอสินเชื่อกับ Grabการเงิน ด้วยความมั่นใจในระบบผ่อนชำระรายวัน การขับ Grab ควบคู่กับงานบัญชีทำให้พี่อ้อสามารถปลดหนี้นอกระบบได้ภายใน 3-4 เดือน และมีสถานะทางการเงินที่คล่องตัวขึ้น จนสามารถไต่ระดับเป็น “เซียนแกร็บคาร์” ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติม เธอมองว่าการขับ Grab เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่มั่นคงและเป็นอาชีพที่ปลอดภัย

เรื่องราวของทั้งสองคนสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและความมุ่งมั่นในการเอาชนะอุปสรรคทางการเงิน โดยมีแพลตฟอร์มอย่าง Grab เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคง