SOCIAL RESPONSIBILITY

กสศ.จับมือ กทม.และภาคีเครือข่าย มอบถุงปันยิ้มให้น้องๆกลุ่มเด็กเปราะบาง ใน 4 จังหวัด

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จับมือ กทม. และภาคี 4 จังหวัดพะเยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดปัตตานี จัดแคมเปญ “โอกาส Delivery” โดยการมอบถุง “ปันยิ้มให้น้อง” แก่กลุ่มเด็กเปราะบางใน 4 จังหวัดดังกล่าว เพื่อสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เนื่องในงานวันเด็กปี 2566 ที่ผ่านมา

ดร.ไกรยส กล่าวว่า “เพื่อสานต่อพันธกิจในการ สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เนื่องในกิจกรรมวันเด็กปี 2566 กสศ.ได้ผสานความร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร พร้อมกับภาคีเครือข่ายจังหวัดเสมอภาค 4 แห่ง ได้แก่ จังหวัดพะเยา จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง และจังหวัดปัตตานี ได้นำถุง ‘ปันยิ้มให้น้อง’ ไปมอบให้กับเด็กกลุ่มเปราะบาง ที่ไม่มีโอกาสเดินทางมาร่วมกิจกรรมวันเด็ก ผ่านขบวนรณรงค์ “โอกาส Delivery” เพื่อให้เด็กได้เข้าถึงสื่อการเรียนรู้ และรณรงค์จุดประกายให้สังคมตื่นตัว กับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พร้อมเชิญชวนสังคมให้ความสำคัญกับ ‘เด็กทุกคน’ ที่ควรมีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้ที่เสมอภาค และฟื้นฟูการศึกษาหลังวิกฤตโควิด-19 โดยภายในถุงปันยิ้มให้น้องจะประกอบด้วย หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์,โมเดลกระดาษ 3 มิติ, สมุดระบายสีฝึกกล้ามเนื้อมือ,ชุดปลูกผัก และสีไม้ ซึ่งเป็นสื่อการเรียนรู้ที่จะช่วยส่งเสริมด้านพัฒนาการ และฟื้นฟูศักยภาพการเรียนรู้ของเด็กๆ เนื่องจากหลังจาก 3 ปีที่ผ่านมา ปัญหาโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบทำให้เด็กไทย จำนวนมากเผชิญภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ หรือ Learning loss

“ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ และเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษา เพราะความยากจน คือหนึ่งในสถานการณ์ที่น่ากังวลของเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ล่าสุด กสศ. มีข้อมูลสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พบว่านักเรียนยากจนที่สุด 15% แรกในระบบการศึกษาไทย จำนวนกว่า 1.3 ล้านคน มีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนเพียงเดือนละ 1,044 บาท หรือเฉลี่ยวันละ 34 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันพบผลกระทบกับเด็กทั่วไป เรื่องพัฒนาการเรียนรู้และภาวะกล้ามเนื้อบกพร่องในเด็กปฐมวัยและเด็กประถมต้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่มีแนวโน้ม ส่งผลกระทบถึงสถานการณ์ทักษะแรงงานและปัญหาเศรษฐกิจของเด็กในอนาคต

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทมหานคร กล่าวว่า “วันเด็กไม่ควรมีเพียงวันเดียวในหนึ่งปี แต่ทุกวันควรเป็นวันเด็ก โดยในทุกวันทุกโอกาส เราต้องคิดถึงเด็กให้มากที่สุด เพราะว่าเด็กคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของเมือง เด็กคืออนาคต คือคนที่จะมาสร้างและดูแลเมืองของเราต่อไป สำหรับงานที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) ปีนี้มีนิทรรศการ ‘Pay it Forward’ เป็นกิจกรรมให้ความรู้เรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม และการส่งต่อโอกาสที่มีคุณภาพและเท่าเทียม ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ มีเด็กอีกจำนวนมากที่ไม่ได้โชคดี เหมือนกับเด็กที่มาร่วมงานวันนี้ บางคนป่วยต้องรักษาตัว บางคนขาดแคลนโอกาส ไม่พร้อมที่จะออกมาสนุกได้”

“วันนี้จึงอยากส่งกำลังใจไปให้เด็กในทุกๆ ที่ให้เขาได้มีวันเด็กที่สนุกสนาน มีความสุขเหมือนเด็กคนอื่นๆ ขบวนคาราวาน โอกาส Delivery เปรียบได้กับเส้นเลือดฝอยของเมือง ที่เราจะลำเลียงความสุขส่งตรงไปถึงเด็กๆ อย่างเสมอภาค ดังที่บอกไว้ว่าทุกวันควรเป็นวันเด็ก เพราะพวกเขาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของเมืองของเรา ขอให้เด็กทุกคนมีความสุข ได้เล่น ได้ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ และขอให้ดูแลกันและกัน สำหรับทางผู้ใหญ่ หรือ กทม.พร้อมที่จะให้โอกาส และร่วมมือกับทุกภาคส่วนสนับสนุนการเดินหน้าไปด้วยกัน โดยย้ำว่าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของเมือง กทม. สัญญาว่าจะดูแลเมืองนี้ให้ดีที่สุด และจะส่งต่อเมืองที่มีคุณภาพให้กับเด็กๆทุกคน”

Related Posts

Send this to a friend