แสนสิริ สานต่อโครงการ “Zero Dropout” ปีที่ 2 รุกพันธกิจ 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ ในพื้นที่ จ.ราชบุรี
แสนสิริ ผนึกกำลัง กสศ. และ สมัชชาการศึกษาราชบุรี เดินหน้าโครงการ “Zero Dropout” ปีที่ 2 เพื่อผลักดันพันธกิจ “1 โรงเรียน 3 รูปแบบ” หวังปฏิรูประบบการศึกษาไทย ให้ยืดหยุ่นและมีทางเลือก เพื่อให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสเรียน โดยนำร่องเด็กนักเรียน ใน จ.ราชบุรี ได้เลือกการเรียนผ่านรูปแบบการศึกษาทางเลือก ที่เหมาะสมให้กับเด็ก ไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขชีวิตแบบใด เรียนที่โรงเรียน-เรียนออนไลน์-เรียนตามอัธยาศัย เพื่อป้องกันเด็ก 4 กลุ่มเสี่ยง หลุดออกนอกระบบการศึกษา ที่ตั้งเป้าเป็น “ศูนย์” ตามเป้าปี 2567 ภายใต้เงินสนับสนุน จากการระดมทุนบริจาคช่วยเหลือเด็ก 100 ล้านบาท ในการดำเนินงานตลอด 3 ปี ในปีที่ผ่านมา หรือ ปี2565 ที่เริ่มก่อตั้งโครงการกระทั่งถึงปัจจุบันปี 2567 โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกสศ.
และจากข้อมูลสถิติของ กสศ. หลังจากเปิดตัวโครงการเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือเด็กเสี่ยงหลุดและเด็กหลุดจากระบบ ได้มีทางเลือกการศึกษา ที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิตได้แล้วจำนวน 9,311 คน จากทั้งหมด 10 อำเภอในจังหวัดราชบุรี
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้เจตนารมณ์ ในการช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ผลักดันความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมทุกมิติ รวมถึงสิทธิทางการศึกษาของเด็ก ที่จะนำพาประเทศไทย ให้เดินไปข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ จากโครงสร้างการศึกษาไทยที่ยังไม่ได้คำนึงถึงสภาพความเป็นอยู่ และวิกฤตในการใช้ชีวิตของเด็กๆ ในพื้นที่นั้นๆ อย่างเท่าเทียม”
“ในปีนี้ เราจึงเดินหน้า พันธกิจ ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ’ ร่วมกับ กสศ. และสมัชชาการศึกษาจังหวัดราชบุรี เพื่อลงลึกถึงการแก้ปัญหา ตั้งแต่จุดเริ่มต้นอย่างมีประสิทธิภาพ ผลักดันสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริงได้ในระดับประเทศ ผ่านโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ ทั้งภารกิจในการพัฒนากลไกการปฏิรูประบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาถึงระดับโครงสร้าง การพัฒนากลไกการทำงานเชิงพื้นที่ ภารกิจในการสำรวจ ช่วยเหลือ และติดตามกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนในระบบและนอกระบบการศึกษา ให้ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงการดำเนินงานของ กสศ. ที่ต่อเนื่องและมีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ ให้เด็กทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ภายใต้ทุกเงื่อนไขชีวิตเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างเท่าเทียม”
“ด้านความคืบหน้าพันธกิจโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ สามารถลดจำนวนเด็กเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา รวมไปถึงเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาไปแล้ว ให้สามารถได้รับการศึกษาและพัฒนา ให้มีทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่ ได้แล้วจำนวน 9,311 คน จากทั้งหมด 10 อำเภอ หลังจากเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2565 โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และกสศ. ภายใต้เงินสนับสนุนจากการระดมทุนบริจาคช่วยเหลือเด็ก 100 ล้านบาท ในการดำเนินงาน 3 ปี ในปีที่ผ่านมา ได้ริเริ่มใช้นวัตกรรมกลไกอาสาสมัครอย่าง“3 พลังอาสา จังหวัดราชบุรี” จากการรวมพลัง 3 กลไกท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) อาสาสมัครการศึกษา (อสศ.) เพื่อฟื้นฟูเด็กๆ ทุกมิติ มุ่งดูแลและฟื้นฟูเด็กที่มีความเสี่ยง หลุดออกนอกระบบการศึกษาและทำงานครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ ด้านสุขภาพกาย-ใจ การคุ้มครองทางสังคม และโอกาสทางการศึกษา โดยการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน”
“จากการลงพื้นที่สำรวจในปีนี้ เพื่อช่วยเหลือเด็กนอกระบบทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ เด็กเสี่ยงหลุดออกนอกระบบการศึกษา,เด็กหลุดออกจากระบบ,เด็กกลุ่มเปราะบาง และเด็กในกระบวนการยุติธรรม ทำให้พบว่า ไม่ใช่แค่ปัจจัยด้านทุนทรัพย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่ทำให้เด็กเหล่านี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ยังสามารถพบอีกหลากหลายปัจจัย เช่น เด็กกลุ่มเปราะบางที่ปัญหา ด้านกายภาพไม่พร้อมจะเรียนรวมกับเด็กคนอื่นๆ (กลุ่มออทิสติกและกลุ่มเด็กที่พัฒนาการช้า) หรือเด็กที่ไม่กล้าไปโรงเรียนหรือไม่สามารถไปโรงเรียนได้ (เด็กที่ถูกรังแก,เด็กที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร,เด็กที่ต้องช่วยครอบครัวทำงาน)
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า “กสศ. พบว่าระบบการศึกษาที่ไม่เข้ากับเด็ก,ขาดแคลนทางเลือก และไม่สามารถตอบสนอง ความต้องการที่หลากหลายได้ เป็นสาเหตุสำคัญของการผลักดัน ให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาและระบบสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในครัวเรือนยากจน,ด้อยโอกาส,กลุ่มเปราะบางทางสังคม และปัญหาเฉพาะ เช่น เด็กและเยาวชนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม กลุ่มตั้งครรภ์ในวัยเรียน กลุ่มที่มีความต้องการพิเศษ ดังนั้นควรสนับสนุนให้เกิดหน่วยจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย ที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค ตอบโจทย์ความต้องการ ที่แตกต่างกันรายบุคคล มีความยืดหยุ่นทั้งเวลา รูปแบบ และเงื่อนไขในการเข้ารับบริการทางด้านการศึกษา สามารถเรียนแล้วได้วุฒิ ได้งาน ได้เงิน ได้ทักษะชีวิต ทักษะการทำงานในโลกยุคใหม่”
“กสศ.ทำงานร่วมกับ สมัชชาการศึกษาจังหวัดราชบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (ราชบุรี) และภาคีหลายภาคส่วน เร่งศึกษาปัญหาในชุมชน การประเมินต้นทุนการทำงานในพื้นที่ พร้อมกับวิเคราะห์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบไปด้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ราชบุรี,องค์การบริหารส่วนตำบล,กลุ่มโรงเรียน สพป.กลุ่มโรงเรียนเครือข่าย กลุ่มโรงเรียนประถมศึกษาและขยายโอกาส,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และเครือข่ายนวัตกรรมการศึกษาทางเลือก เพื่อร่วมพัฒนาหน่วยจัดการเรียนรู้ที่เป็นนวัตกรรมการศึกษาที่ยืดหยุ่น”
“จนพัฒนาเป็น โครงการต้นแบบ ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ’ ครั้งแรกในจังหวัดราชบุรี โดยเตรียมนำร่องโครงการ 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรีเขต 1 ในเดือนสิงหาคมนี้ และได้มีการประกาศแต่งตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 ซึ่งเป็นเขตพื้นที่นำร่อง เพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายสูงสุดในการพลิกการเปลี่ยนแปลงประเทศ ด้วยการทำให้เด็กในจังหวัดราชบุรี หลุดระบบการศึกษาเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปีให้เกิดขึ้นได้จริง”
ด้าน ดร.บรรเจิด อุ่นมณีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 (สพป.ราชบุรี เขต1) กล่าวว่า “การศึกษานั้นมีความสำคัญ สำหรับเด็กและเยาวชนเป็นอย่างมาก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ใน มาตรา 15 กำหนดไว้ว่า โรงเรียนสามารถจัดการศึกษาได้ 3 รูปแบบ ได้แก่”
1.การศึกษาในระบบ ที่กำหนดหลักสูตร,ระยะเวลาของการศึกษา และการวัดและประเมินผลเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
2.การศึกษานอกระบบ ที่มีความยืดหยุ่นของรูปแบบ,วิธีการจัดการศึกษา,ระยะเวลาของการศึกษา และการวัดและประเมินผล โดยเนื้อหาและหลักสูตร จะมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม
3.การศึกษาตามอัธยาศัย ที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อมสื่อ หรือแหล่งความรู้อื่นๆ ซึ่งทางโรงเรียนมหาราช 7 โรงเรียนอนุบาลสวนผึ้ง โรงเรียนวัดดอนตลุง (ราษฎ์ศรัทธาทาน) ในพื้นที่ สพป.ราชบุรี เขต 1 และ โรงเรียนเนกขำวิทยา สพม.ราชบุรี จะเป็นโรงเรียนนำร่อง 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ
เพื่อจัดการศึกษาให้ตอบโจทย์เด็ก ที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาเป็นรายบุคคล และสามารถพัฒนาระบบการศึกษา ให้พื้นที่จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่ ZERO DROPOUT ในอนาคตต่อไป นอกเหนือจากโครงการต้นแบบ ‘1 โรงเรียน 3 รูปแบบ’ แล้ว ทาง กสศ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ ยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาโครงการ เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้เข้าถึงเด็กทุกคน












