กรมการแพทย์ เตือน โรคมือ เท้า ปาก ระบาดช่วงฤดูฝน พบบ่อยในเด็กเล็ก
วันนี้ (26 ก.ค. 67) นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคมือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี พบได้ประปรายในเด็กโต โดยเฉพาะเด็กที่อยู่รวมกัน เช่น ในโรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็ก โรคนี้เกิดขึ้นได้ตลอดทั้งปีและจะพบเพิ่มขึ้นในฤดูฝน เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร เข้าสู่ปากจากการสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก น้ำตุ่มพอง และแผล ของผู้ป่วยและการใช้สิ่งของร่วมกัน ดังนั้น สถานศึกษาควรมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังการป่วยของโรค
นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ผู้ป่วยเด็กจะมีไข้สูง 3-4 วัน เริ่มมีตุ่มน้ำใสขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ปาก ลิ้น เหงือก ในวันแรกของไข้มีอาการเจ็บร่วมด้วย ทำให้ทานอาหารไม่ได้ มีน้ำลายไหล และอาจมีผื่นขึ้นตามขาทั้ง 2 ข้าง อาการมักจะหายเองภายใน 5-7 วัน
ในผู้ใหญ่จะมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มีแผลในปาก อาจมีผื่นขึ้นหรือไม่มีก็ได้ ส่วนใหญ่ไข้จะลดลงและหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ แผลในปากจะดีขึ้นเอง ตุ่มน้ำที่มือหรือเท้าจะค่อย ๆ หายไป โรคแทรกซ้อนที่พบได้คือ เยื่อหุ้มสมอง หรือเนื้อสมองอักเสบ นอกจากนี้อาจเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้
ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการของเด็ก หากพบว่ามีไข้สูง 39 องศาเซลเซียส หรือไข้สูงมากกว่า 2 วัน เหนื่อย หอบซึม หลับทั้งวัน ปลุกตื่นยาก อาเจียนมากกว่า 2-3 ครั้ง อาการแขนขาอ่อนแรง มีอาการผวาหรือกระตุก จากเดิมไม่เคยมีอาการมาก่อน ควรรีบไปพบแพทย์
ปัจจุบันโรคมือเท้าปากสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงที่เกิดอาการรุนแรงได้ด้วยการฉีดวัคซีน แนะนำการฉีดวัคซีนในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปี นอกจากนี้ การดูแลสุขอนามัยเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ทำความสะอาดของเล่นและเครื่องใช้ หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับโรคได้ง่าย เช่น สนามเด็กเล่น ตลาด หรือแหล่งที่มีคนแออัด