สธ.ประณามกัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก ละเมิดอนุสัญญาเจนีวาร้ายแรง
สธ.ประณามกัมพูชาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก ละเมิดอนุสัญญาเจนีวาร้ายแรง เรียกร้องกัมพูชา แสดงความรับผิดชอบ – หยุดโจมตี – เยียวยาผู้สูญเสีย ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 11 ราย
วันนี้ (24 ก.ค. 68) กระทรวงสาธารณสุข นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตนเองได้รับทราบเหตุการณ์การโจมตีพี่น้องประชาชนไทยที่เกิดขึ้น ตนเองรู้สึกโกรธ และเศร้าสลดอย่างสุดซึ้ง จากเหตุการณ์ที่กองกำลังกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีอย่างไร้มนุษยธรรมต่อโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดสุรินทร์ และพื้นที่พลเรือนในอีกหลายจังหวัดตามแนวชายแดน การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการคุกคามอธิปไตยของชาติ แต่ยังเป็นการเหยียบย่ำคุณค่าความเป็นมนุษษย์อย่างร้ายแรง สถานการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันนี้ (วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.15 น.) นั้น ใหญ่หลวงเกินกว่าจะยอมรับได้ จากการโจมตีในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ถึง 35 รายในจำนวนนี้ต้อง เสียชีวิตถึง 11 ราย และยังมีทหารผู้กล้าของเราได้รับผลกระทบอีก 8 นาย โดยมี
รายละเอียดความสูญเสียในแต่ละพื้นที่ ดังนี้
จังหวัดสุรินทร์: ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (โดยเป็นเด็กอายุ 8 ขวบ 1 ราย), บาดเจ็บสาหัส 1 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย ส่วนทหารบาดเจ็บสาหัส 3 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 1 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย
จังหวัดอุบลราชธานี: ประชาชนเสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บสาหัส 4 ราย
จังหวัดศรีสะเกษ: ประชาชนเสียชีวิต 8 ราย (โดยเป็นเด็กอายุ 15 ปี 1 ราย), บาดเจ็บสาหัส 3 ราย, บาดเจ็บปานกลาง 8 ราย, บาดเจ็บเล็กน้อย 4 รายและทหารเสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย
จังหวัดบุรีรัมย์: ประชาชนบาดเจ็บปานกลาง 1 ราย
กระทรวงสาธารณสุขขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการโจมตีโรงพยาบาล และประชาชนชาวไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง ซึ่งในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้นมีเด็กผู้บริสุทธิ์รวมอยู่ด้วย การทำร้ายเด็กถือเป็นการกระทำที่น่าละอายและไม่อาจให้อภัยได้ที่สุด
ทั้งนี้ โรงพยาบาลต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยเสมอ การจงใจยิงอาวุธใส่สถานพยาบาล คือการกระทำที่ข้ามเส้นแบ่งความเป็นมนุษย์ ดังที่ มาตรา 18 แห่งอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “โรงพยาบาลพลเรือน… จะต้องไม่ถูกโจมตีไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ แต่จะต้องได้รับความเคารพและคุ้มครองจากคู่ขัดแย้งตลอดเวลา”
การกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ จึงเข้าข่ายการละเมิดอย่างร้ายแรงและถือเป็น “อาชญากรรมสงคราม” อย่างชัดเจน ผู้สั่งการและผู้ลงมือจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำอันเลวร้ายนี้เป็นการส่วนตัว ในนามของกระทรวงสาธารณสุข เราขอเรียกร้องอย่างหนักแน่นที่สุด ดังนี้
1.รัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงความรับผิดชอบ และหยุดการกระทำโดยทันที
2.รัฐบาลกัมพูชาต้องร่วมเยียวยาความสูญเสียทั้งหมด
“ผมขอยืนยันว่า ความปรารถนาสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข คือการหยุดยั้งความโหดเหี้ยมนี้เราขอเรียกร้องให้ประเทศกัมพูชายุติการกระทำอันเป็นอาชญากรรมสงครามนี้โดยทันที และหันกลับมาเคารพหลักการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ“
สุดท้ายนี้ ขอส่งความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย และขอให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนว่า กระทรวงสาธารณสุขจะระดมสรรพกำลังทั้งหมดในการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด และรัฐบาลไทยจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของชาติ และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนไทยทุกคน












