สพฉ. เผยความสำเร็จ ช่วยชีวิตผู้ได้รับสารพิษคาร์บอนมอนอกไซด์นอกโรงพยาบาล ด้วยเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาที
หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยถึงความสำเร็จในการช่วยชีวิตผู้ป่วยได้รับสารพิษคาร์บอนมอนอกไซด์นอกโรงพยาบาล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต้องได้รับรักษาที่จำเพาะเจาะจงเพื่อช่วยชีวิต โดยทีมหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์หรือทีมกู้ชีพ สามารถช่วยเหลือ และส่งต่อเพื่อรักษาในเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่สามารถทำได้รวดเร็ว
ข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ Ramathibodi Emergency Medical Operation Unit เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 67 หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รับสั่งการจากให้รับผู้ป่วยสงสัยภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์สูงจนทำให้เกิดพิษ จึงจัดทีมปฏิบัติการแพทย์ระดับเฉพาะทางสาขาฉุกเฉินการแพทย์ (CLS) ประกอบด้วย แพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน 1 ราย และอาจารย์นักฉุกเฉินการแพทย์ 3 ราย ออกปฏิบัติการ โดยมี อาจารย์แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เป็นแพทย์อำนวยการ (พอป.) อาจารย์นักฉุกเฉินการแพทย์ 2 ราย เป็น SEMD, EMD
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบผู้ป่วยหมดสติ 1 ราย จากการตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด และวิเคราะห์ค่าก๊าซในหลอดเลือดแดง ณ จุดเกิดเหตุ พบว่าผู้ป่วยมีภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์สูงจนทำให้เกิดพิษ (CO poisoning) จึงทำการ Activate flow Prehospital toxico โดยมีกระบวนการดังนี้
1.หน่วยปฏิบัติการอำนวยการโทรประสานหน่วยปฏิบัติการอำนวยการระดับเฉพาะทางสาขาพิษวิทยา รามาธิบดี เพื่อปรึกษากระบวนการการรักษา
2.ประสานศูนย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ นำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยห้องปรับแรงดันบรรยากาศสูง (hyperbaric chamber)
3.ทีมปฏิบัติการฯ นำผู้ป่วยออกจากจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้าศูนย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยมีทีมจักรยานยนต์การแพทย์ฉุกเฉิน นำหลอดบรรจุตัวอย่างเลือดของผู้ป่วยส่งห้องปฏิบัติการเคมีคลินิก ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี หาค่า COHb (คาร์บอนมอนอกไซด์ในเม็ดเลือดแดง)
4.ผู้ป่วยถึงศูนย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นเวลาเดียวกับที่ผล COHb ออก จึงแจ้งผลให้ทราบ
5.ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอ๊อกซิเจนแรงดันสูง (HBOT) ในห้องปรับแรงดันอ๊อกซิเจน Monoplace hyperbaric chamber
6.หลังเสร็จสิ้นการรักษา ทีมปฏิบัติการฯ นำผู้ป่วยส่งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อทำการรักษาเป็นผู้ป่วยต่อไป
สำหรับกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาที นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ผู้ป่วยได้รับพิษนอกโรงพยาบาล ได้รับการรักษาที่จำเพาะเจาะจง (Definitive care) ด้วยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินต่อไป