PUBLIC HEALTH

สธ.ตรวจพบผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์สถานบันเทิง มีอาการ ตาแดง ผื่นขึ้น น้ำมูกไหล หากมีอาการให้รีบพบแพทย์

กระทรวงสาธารณสุข เผยโควิดระลอกเมษายน มีผู้ติดเชื้อแล้ว 2,795 ราย เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 1,016 ราย ใน 40 จังหวัด พบตาแดง ผื่นขึ้นในผู้ติดเชื้อหลายราย เตือนผู้ไปเที่ยวผับบาร์หากมีอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ ย้ำสงกรานต์ลดกิจกรรม ใส่หน้ากาก ไม่ไปสถานที่เสี่ยง

วันนี้ (10 เม.ย. 64) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่าสถานการณ์โควิด-19ในขณะนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด เชื่อมโยงสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ ที่มีผู้ติดเชื้อรวม 1,016 ราย ระบาดข้ามจังหวัดไปใน 40 จังหวัด ปัจจัยเสี่ยงคือคนหนุ่มสาวที่ติดเชื้อไปเที่ยวสถานบันเทิงหลายแห่งในคืนเดียว

รวมทั้งเมื่อกลับภูมิลำเนาก็ไปเที่ยวสถานบันเทิงอีก ทำให้แพร่กระจายมาก ประกอบกับเป็นสายพันธุ์อังกฤษที่แพร่ได้รวดเร็วขึ้น จากการตรวจผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ แต่มีเชื้อในลำคอจำนวนมาก อย่างไรก็ตามสายพันธุ์นี้ไม่ได้มีอาการรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ยาที่ใช้ในการรักษายังมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบกับวัคซีน โดยที่อังกฤษซึ่งเป็นต้นกำเนิดการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ายังสามารถลดอัตราการติดเชื้อได้

“จากการสังเกตอาการผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง พบหลายรายมีอาการตาแดง น้ำมูกไหล ไม่มีไข้ บางรายมีผื่นขึ้น ดังนั้นหากผู้ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงมีอาการเหล่านี้ขอให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาเชื้อฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วน รพ.เอกชนถ้าอยู่ร่วมโครงการของ สปสช.ตรวจฟรีเช่นกัน ซึ่งอาการใหม่ที่พบเพิ่มเติมจะเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์อังกฤษหรือไม่ ต้องตรวจสอบข้อมูลก่อน” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ช่วงสงกรานต์ขอให้ลดกิจกรรมที่เสี่ยง ไม่ไปสถานที่เสี่ยง ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น ใส่หน้ากากเวลาพูดคุย หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารร่วมกับคนจำนวนมาก เว้นระยะห่างและล้างมือบ่อยๆ หากไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ขอให้ใส่หน้ากากทุกครั้ง เพราะติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรงและเสียชีวิต นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบมาตรการจังหวัดปลายทางด้วย แม้ ศบค.จะไม่ห้ามการเดินทาง ไม่ต้องกักตัว แต่จังหวัดสามารถออกมาตรการเข้มกว่าได้

สำหรับวัคซีนโควิดที่ประเทศไทยนำมาใช้ยืนยันว่ามีคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยผ่านมาตรฐานองค์การอนามัยโลก และการตรวจสอบจากคณะผู้เชี่ยวชาญไทย เช่น วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าป้องกันการติดเชื้อร้อยละ 60 ลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 9 เมษายน 2564 ฉีดแล้ว 537,380 โดส แบ่งเป็นฉีดเข็มแรก 470,301 ราย ฉีดครบ 2 เข็ม 67,079 ราย การฉีดวัคซีนไม่ได้ล่าช้า มีประสิทธิภาพ มีการจัดการฉีดวัคซีนที่ดี เช่น ชลบุรีฉีดวันละ 1 หมื่นโดส ภูเก็ตวันละ 1.4 หมื่นโดส

ส่วนวัคซีนซิโนแวค 1 ล้านโดสที่ถึงไทยวันนี้ หลังตรวจสอบคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยจาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วจะกระจายไปตามแผน ทั้งกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้าอื่นๆ พื้นที่ที่มีการระบาด จังหวัดที่มีแผนเปิดจังหวัด เป็นต้น

Related Posts

Send this to a friend