KNOWLEDGE

CMMU เผย 3 เทรนด์ธุรกิจมาแรงครึ่งหลังปี 66 พร้อมเปิดตัว หลักสูตรภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม (EI)

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) เผย 3 เทรนด์ตลาดที่ส่งผลกระทบเชิงบวกในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ ตลาดมุสลิม ตลาดอาหารฮาลาล และตลาดทริปเปิลเอส (Triple S) ที่เกิดจากหลายปัจจัยร่วม อาทิ เศรษฐกิจยั่งยืน (Sustainable Economy) สังคมผู้สูงอายุ (Silver Population) และสังคมสาวโสด (Single Woman)’ ซึ่งกำลังมาแรงในช่วงครึ่งหลังปี 66

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวหลักสูตรปั้น SMEs หรือ หลักสูตรภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Entrepreneurship And Innovation Program: EI) ที่จะช่วยขยายศักยภาพผู้ประกอบไทยด้านการออกแบบ การคิดต่างด้วยนวัตกรรมใหม่ รวมถึงสร้างคอนเนคชั่น เพื่อก้าวสู่นักธุรกิจระดับ MVP เนื่องจากมองว่าผู้ประกอบการ SMEs ไทยควรผันตัว สู่นักสร้างธุรกิจมืออาชีพ โดยเฉพาะการรุก เป็นผู้ส่งออกสินค้าไทย สู่ตลาดต่างประเทศ

ดร.ตรียุทธ พรหมศิริ หัวหน้าสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า “การเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่เกิดขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแค่ในประเทศไทยอย่างเดียว แต่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยในอดีตการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ทางเศรษฐกิจโลกมีระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงถึง 50 ปี แต่จากหลากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น อาทิ การปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือแม้แต่สงครามโลก ทำให้ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลง ของเศรษฐกิจโลกลดลงมาเหลือเพียง 10 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่รวดเร็วพอสมควร จากปรากฏการณ์ที่ผันแปรรวดเร็วนี้ ทำให้บรรดาผู้ประกอบการยึดโยงตัวเอง กับตลาดกลุ่มเก่าไม่ได้อีกต่อไป ต้องหันมาวิเคราะห์ความน่าจะเป็นในการเจาะตลาดใหม่ๆ เพื่อให้ก้าวทันเทรนด์ธุรกิจใหม่ในโลกอนาคต รวมถึงเข้าใจการเกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และลักษณะทางประชากรที่เปลี่ยนไปด้วย”

“ข้อมูลจากธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เผย 3 เทรนด์ตลาดที่น่าจับตามองครึ่งหลังปี 2566 มีดังนี้

1.ตลาดมุสลิม มีแนวโน้มเป็นตลาดแห่งอนาคตขนาดใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันตลาดมุสลิมมีอัตราส่วนมากถึง 1 ใน 4 ของประชากรโลก มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ และที่สำคัญมีศักยภาพกำลังซื้อที่สูงมาก

2.ตลาดอาหารฮาลาล มีมูลค่าสูงถึง 2.6 ล้านล้านเหรียญ หรือใหญ่เป็น 15 เท่าของ GDP ประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าอาหารกระป๋องกับฟรีซ-ดราย (Freeze Dry) ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากไม่เสียง่ายจากสภาพอากาศ

3.ตลาดทริปเปิลเอส (Triple S) ประกอบด้วย 3S เริ่มที่ เศรษฐกิจยั่งยืน (Sustainable Economy) ที่เติบโตมากถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญ เห็นได้จากกระแสตลาด BCG ที่เติบโตถึง 21% ต่อปี เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์สินค้าที่ย่อยสลายได้ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องใส่ใจสินค้าและบริการที่มีความเกี่ยวเนื่อง กับความยั่งยืนให้มากขึ้นเรื่อยๆ สังคมผู้สูงอายุ (Silver Population) ด้วยประชากรอายุ 50 ปีขึ้นไปจะมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เทรนด์อาหารฟังก์ชัน (Functional Food) ที่จะมีการนำนวัตกรรมมาช่วยเสริมสร้าง คุณประโยชน์ในสารอาหารได้รับความนิยมสูงขึ้นในอนาคต และสังคมสาวโสด (Single Woman) เนื่องด้วยสังคมปัจจุบันผู้หญิงใช้ชีวิตโสดมากขึ้น และหาความสุขจากการซื้อของ โดยเฉพาะของสวยงาม ทำให้ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย หรือ Luxury Goods มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นต่อเนื่อง ตามกำลังซื้อของสาวโสดในยุคนี้”

“นอกจากการเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้เกิดเทรนด์การทำธุรกิจใหม่ๆ ตลอดเวลาแล้ว ธุรกิจกลุ่ม SMEs ไทย เองก็ต้องมีการวางโร้ดแมพ ของธุรกิจให้ชัดเจนเช่นกัน พร้อมกับเปลี่ยนวิธีการคิดให้กลายเป็นนักธุรกิจไทยในฐานะ ผู้ส่งออกสินค้าระดับ MVP ที่ก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจ ในต่างประเทศที่ไม่ใช่เพียงจำกัดการส่งออกภายในประเทศเท่านั้น ถึงแม้ปัจจุบันมีอุปสรรคด้านประชากรไทย มีหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90% ส่งผลให้ตลาดในประเทศ มีศักยภาพไม่มากพอในการเดินหน้าธุรกิจ แต่หากรู้กลยุทธ์ที่ทำให้สินค้าและการบริการ ถูกส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มช่องทางสร้างรายรับ เข้ามาในธุรกิจได้ ซึ่งหากพิจารณามุมของรายได้สุทธิ จะพบว่ารายได้จากการส่งออกตลาดต่างประเทศ เติบโตกว่าตลาดในประเทศถึง 4 เท่า ฉะนั้นการวางเป้าหมายของการเป็น “ผู้ส่งออก” จึงสำคัญไม่น้อย”

“ทั้งนี้การหล่อหลอมผู้ประกอบการ ให้กลายเป็น “นักสร้างธุรกิจ” หรือ “Business Creator” มืออาชีพระดับ MVP เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของ CMMU คือการดำเนินงาน ผ่านหลักสูตรภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทั้ง “ภาวะผู้ประกอบการ” และ “สามารถสร้างนวัตกรรมได้” ทำให้ผู้ประกอบการ ผู้ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ รวมถึงธุรกิจกลุ่ม SMEs สามารถออกแบบธุรกิจ จุดประกายความคิดต่างที่สดใหม่ และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้ดี ซึ่งเมื่อจบหลักสูตรผู้เรียน จะได้แผนการดำเนินธุรกิจ (Business Plan) ที่สมบูรณ์แบบ สามารถนำไปต่อยอดธุรกิจของตนเองได้ โดยหลักสูตรเปิดให้เรียนวันเสาร์และอาทิตย์ รวมถึงยังมีพาร์ทเนอร์อย่าง EXIM BANK ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ไม่ยากมาเสริมกำลังด้วย”

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจจะเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท หลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โทรศัพท์ 02-206-2000 หรือเพจเฟซบุ๊ก CMMU Mahidol (https://www.facebook.com/CMMUMAHIDOL)

Related Posts

Send this to a friend