สยามพารากอน ชวนคนดังร่วมแชร์ประสบการณ์ และไอเดียผ่านโครงการ “Wall of Wonders”
สยามพารากอน เชิญชวนผู้คนจากทั่วโลก ร่วม Co-Creation ด้วยการเปิดพื้นที่สาธารณะผ่านโครงการ “Wall of Wonders” เพื่อร่วมแชร์ความสุข ความทรงจำ และบอกเล่าความประทับใจ พร้อมรวบรวมไอเดียสร้างสรรค์ และความปรารถนา ที่จะได้เห็นความแปลกใหม่ ในสยามพารากอน ภายใต้ไอเดียที่ว่า What is your next wonders? เพื่อนำมาสร้างสรรค์พื้นที่ ให้มีความหลากหลายตรงตามความสนใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติ
พร้อมกันนี้ได้ออกแบบเป็นกำแพง ในรูปแบบ Interactive ติดตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ชั้น 1 ฝั่งนอร์ท สำหรับในเฟสแรก ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2566 โดยลูกค้าที่มาสยามพารากอน สามารถแสดงไอเดียสุดสร้างสรรค์ เป็นข้อความภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ จากนั้นระบบจะนำข้อความไปปรากฎบนหน้าจอ และจัดเก็บเป็นข้อมูลเพื่อทางศูนย์ฯ จะนำความคิดเห็นเหล่านี้มาสร้างสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้ตรงกับความสนใจของผู้คน ในแต่ละคอมมูนิตี้ พร้อมกันนี้ยังมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน ONESIAM SuperApp ซึ่งคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาร่วมกิจกรรมนับแสนคน ทั้งนี้เหล่าเซเลบริตี้หลากหลายอาชีพ ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ พร้อมความทรงจำ ที่มีกับศูนย์การค้าสยามพารากอน
มาร์ค ธาวิน พี เซียวตง “Pride of Bangkok ที่แท้จริง” กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมหรือแบรนด์ลักซ์ชัวรี่ ที่มาเปิดในสยามพารากอน สามารถบอกกับทุกคนได้ว่านี่คือ Pride of Bangkok เพราะตอบโจทย์ลูกค้าในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง ส่วนสิ่งที่อยากเห็นในอนาคต คือขอให้สยามพารากอน ดูแลลูกค้าน่ารักๆ ในทุกมิติอย่างนี้ตลอดไป”
ขณะที่ เมนี่-ดร.ภาดาภัสสรณ์ ภาดาพิลาสธานันทร์ เผยว่า “บางครั้งไม่รู้จะไปไหน หรือทำอะไรก็คิดถึงสยามพารากอน เพราะที่นี่มีแบรนด์ที่ชื่นชอบทั้งแฟชั่น เสื้อผ้า อาหาร ทุกครั้งที่หิว หรือจะไปงานก็จะมาที่นี่ ที่สำคัญคือมาแล้วก็ไม่เคยผิดหวัง เพราะจะได้สินค้าคอลเลกชันใหม่ๆ กลับไปตลอด ส่วนโฉมใหม่ของสยามพารากอนที่อยากเห็น น่าจะเป็นการเพิ่มร้านอาหารประเภทไฟน์ไดน์นิ่งให้มากขึ้น ทุกวันนี้สยามพารากอนเป็นศูนย์รวม ของร้านอาหารทั้งสตรีทฟู้ดไปจนถึงไฟน์ไดน์นิ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเพิ่มจำนวนขึ้นอีกก็จะดีมากๆ ค่ะ”
ด้าน เต้-ปิยะรัฐ กัลย์จาฤก กล่าวว่า “ประทับใจตั้งแต่วันแรกที่เปิด ทุกคนต่างมาใช้ชีวิตกันที่สยามพารากอน ทั้งมาช้อปปิ้ง ทานอาหาร มาเที่ยว มาใช้เวลากับครอบครัว เป็นศูนย์รวมความรัก ซึ่งสามารถมามีความสุขร่วมกันได้ทุกเพศ ทุกวัย สำหรับความประทับใจส่วนตัว งานที่เราทำอย่างรายการ The Face Thailand ซึ่งเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จมาก มีแฟนคลับมากมาย ก็จัดที่ Royal Paragon Hall ทำให้รู้สึกมีความผูกพัน และประทับใจที่นี่มาก ที่สำคัญสยามพารากอนยังเปิดกว้าง ให้พื้นที่กับคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มของ LGBTQIA+ สามารถมีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมได้อย่างเท่าเทียม เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ส่วนอยากให้สยามพารากอนปรับปรุง หรือเพิ่มเติมอะไรอีก คิดว่าสยามพารากอนดีพร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ในอนาคตซึ่งจะเห็นได้ชัดว่ามี Future skill เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา อยากให้สยามพารากอน เป็นพื้นที่ที่สามารถรองรับทุกกิจกรรม เป็นพื้นที่ให้เด็กยุคใหม่ มารวมตัวกันอย่างปลอดภัย โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงและกังวล”
ปิดท้ายที่ ศักดิ์สิทธิ์ พิศาลสุพงศ์ “ดีไซเนอร์คนดังแห่ง Tube Gallery กล่าวว่า “สยามพารากอน เป็นศูนย์การค้าที่เป็นเหมือนมาตรฐาน ของศูนย์การค้าระดับลักช์ชูรีของเมืองไทย หรือระดับโลกก็ว่าได้ มาจนถึงวันนี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า สยามพารากอนมีความอเมซิ่งมาก ทุกครั้งที่เข้ามาจะเห็นว่าแต่ละแบรนด์มีคนเข้าแถว เพื่อที่จะช้อปปิ้งอยู่เสมอ นับเป็นปรากฏการณ์ของการช้อปปิ้งสมัยนี้อย่างแท้จริง โดยส่วนตัวมีโอกาสได้ร่วมงาน BIFW (Bangkok International Fashion Week) มาโดยตลอดเป็นประจำ ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบันทุกปี แสดงให้เห็นได้ว่านอกจากสยามพารากอนจะมีแบรนด์ลักช์ชูรีระดับโลกแล้ว ยังไม่ลืมกลุ่มไทยดีไซเนอร์ ซึ่งเป็นรากฐานของแฟชั่นไทย ซึ่งสยามพารากอนให้ความสำคัญ กับแบรนด์แฟชั่นไทยมาโดยตลอด”
และในเดือนพฤษภาคม 2566 นักท่องเที่ยว จะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับ Art Installation ในรูปแบบ Digital ระดับมาสเตอร์พีซ ที่ให้ความเห็นของคุณ กลายเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะที่แปลกใหม่ล้ำสมัย