ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงาน Innovation Summit Bangkok ยกทัพดิจิทัลเซอร์วิสบริการเชิงรุกในยุค 4.0
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดงาน Innovation Summit Bangkok 2023 งานด้านเทคโนโลยีสำหรับการสร้างความยั่งยืน สู่ความเป็น Carbon Neutral และ Net Zero พร้อมโซลูชั่น ดิจิทัลเซอร์วิส ด้านบริการยุค 4.0 ให้บริการเชิงรุก วิเคราะห์ คาดการณ์ ลดดาวน์ไทม์ และค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง คาดการณ์แนวโน้มการเสื่อมสมรรถภาพของอุปกรณ์ พร้อมแจ้งเตือนความล้มเหลวของอุปกรณ์ล่วงหน้า ยืดอายุของอุปกรณ์ไฟฟ้า แนะนำแผนการบำรุงรักษาได้อย่างเหมาะสม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5–6 กรกฎาคม 2566 ณ Grand Hall ชั้น 2 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
นายวราชัย จตุรสถาพร รองประธาน ธุรกิจ Field Services ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา เปิดเผยว่า ดิจิทัลเซอร์วิสของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นมิติใหม่แห่งการบริการด้านการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ที่มาพร้อมดิจิทัลของ EcoStruxure ให้ศักยภาพด้าน IOT และใช้ AI มาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการความครอบคลุมที่สุด ลดต้นทุนทางธุรกิจในภาพรวมได้ โดยภายในงานประกอบไปด้วย
EcoStruxure Service Plans (ESP) มิติใหม่แห่งการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าด้วยบริการดิจิทัลตลอดอายุสัญญา ที่ให้บริการครอบคลุมถึงระบบ IoT พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ และปรับปรุงอุปกรณ์โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลทรานส์ฟอร์มระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ด้วยซอฟต์แวร์ ระบบวิเคราะห์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกับดิจิทัล ลดความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ลดกิจกรรมด้านการบํารุงรักษา ลดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการเอง ลดเวลาขัดข้องที่ไม่ได้วางแผนไว้ตลอดจนยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และสินทรัพย์
EcoStruxure Transformer Expert (ETE) ระบบตรวจสอบ และการมอนิเตอร์หม้อแปลงไฟฟ้า ครอบคลุมการตรวจสอบประสิทธิภาพ ความเสี่ยงในอนาคต ป้องกันโหลด และความล้มเหลว โดยใช้ IOT ช่วยตรวจสอบ และคาดการณ์ด้วยการเก็บและรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ข้อมูลแบบอัจฉริยะ
Electrical Digital Twin Service (EDTS) ยกระดับผังวงจรของระบบไฟฟ้าทั้งโรงงาน อาคาร หรือไซต์งานให้เป็นดิจิทัล ทำครั้งเดียวใช้ได้ตลอด ง่ายในการปรับปรุงความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่ายในการสร้างแบบจำลองที่มีราคาแพง ประหยัดเวลาในการรวบรวมข้อมูลใหม่ที่ใช้เวลานาน
“การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าให้เป็นดิจิทัล เป็นการแก้ปัญหาความท้าทายของระบบไฟฟ้าในอดีต ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ โดยเฉพาะการดาวน์ไทม์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากการเสื่อมของอุปกรณ์ที่มีอยู่ หรือจากปัจจัยสภาวะแวดล้อมต่างๆ เมื่อเปลี่ยนเป็นดิจิทัลแล้ว ทำให้สามารถเข้าถึงและมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของระบบไฟฟ้า รวมถึงประสิทธิภาพ ในแบบเรียลไทม์ และย้อนหลังได้ ทำให้สามารถวิเคราะห์ คาดการณ์แนวโน้มของระบบได้อย่างมั่นใจ” นายวราชัย กล่าวทิ้งท้าย
