ENVIRONMENT

ศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องคดีชายหาดสะกอม ชาวบ้าน ผิดหวังหลังรอคอยมา 11 ปี

ศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องคดีชายหาดสะกอม จ.สงขลา ให้เหตุผลไม่เข้าข่ายที่ต้องทำ EIA ในการสร้างเขื่อนกั้นคลื่น ขณะที่ชาวบ้าน ยอมรับผิดหวัง หลังรอคอยมา 11 ปี

วันนี้ (26 ม.ค. 65) ที่ศาลปกครองสงขลา ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษายกฟ้อง กรมเจ้าท่า กรณีสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำสะกอม ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา 

นางสาว เฉลิมศรี ประเสริฐศรี ทนายความมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน เปิดเผยว่า ศาลอ่านคำพิพากษาว่า ศาลได้วินิจฉัยไว้ 3 -4 ประเด็น ในเรื่องของโครงการที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลมองว่าการจัดทำ EIA ไม่อยู่ในเงื่อนไขของการถมที่ในทะเลจึงไม่เข้าเงื่อนไขในการต้องทำ EIA ในส่วนของ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยปี 2465 ซึ่งเป็นกฎหมายเก่ามีกฎกระทรวงฉบับที่ 63 ปี 2537 กำหนดว่าการก่อสร้างสิ่งที่รุกล้ำน่านน้ำ ซึ่งจะต้องทำ EIA แต่ศาลวินิจฉัยว่า ไม่เข้าข่ายเงื่อนไขของประกาศ ดังนั้นโครงการนี้ จึงไม่ ต้องทำ EIA

“ในการยื่นฟ้องคดีเรามีการยื่นฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องฟื้นฟูชายหาด จำนวนรวมทั้งสิ้น 189,000,000 บาท ในระยะเวลา 9 ปี เพื่อให้หาดสะกอม กลับมาเหมือนเดิมก่อนการก่อสร้างเขื่อนกันทราย แต่ศาลมองว่าโครงการนี้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มีการเฝ้าติดตามความเสียหายอยู่เป็นระยะศาลจึงมองว่าโครงการนี้ชอบด้วยกฎหมายศาลจึงพิจารณายกฟ้องในที่สุด” ทนายกล่าว

โดยเมื่อปี 2554 ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้กรมเจ้าท่าผิด ในกรณีการก่อสร้างเขื่อนกั้นทรายและคลื่นปากร่องน้ำสะกอม เนื่องจากไม่มีการศึกษาผลกระทบสิ่งเเวดล้อม หรือ EIA ก่อนการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนกันทราย เเละคลื่นปากร่องน้ำสะกอม เเละเขื่อนกันคลื่นนอกฝั่ง 4 ตัว ซึ่งกรมเจ้าท่าได้มีการอุทธรณ์คดีไปยังศาลปกครองสูงสุด และศาลยกฟ้องในวันนี้ ถือเป็นการรอคอยมานาน 11 ปี 

นายดลลอหมาน โต๊ะกาหวี ชาวบ้านต.สะกอม ซึ่งเป็นผู้ฟ้อง มองว่า ศาลนำข้อมูลจากกรมเจ้าท่ามาพิจารณาฝ่ายเดียวและนำมาพิพากษาดูเหมือนไม่ฟังชาวบ้านเลยทั้งที่ชาวบ้านยื่นคัดค้านไปแล้ว แต่ศาลมิได้นำมาพิจารณาวินิจฉัยเลย

Related Posts

Send this to a friend