ENVIRONMENT

‘ชัชชาติ – วราวุธ’ ชนแขน ตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาฝุ่น คาดเห็นผลสิ้นปีนี้

วันนี้ (22 ก.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมหารือกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการบริหารจัดการขยะและ PM 2.5 โดยก่อนการประชุมนายวราวุธ ขอชนแขนกับนายชัชชาติ ซึ่งเป็นท่าที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชนแขนกับผู้นำนานาชาติ ในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP 26)

นายวราวุธ กล่าวว่า การประชุมวันนี้เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งที่กรุงเทพมหานครและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะทำร่วมกันได้ เช่น PM 2.5 น้ำเสีย ขยะมูลฝอย การบริหารจัดการคาร์บอนเครดิต การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การกัดเซาะเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน ขอบคุณนายชัชชาติ ที่มีความรวดเร็วอยากตั้งคณะทำงานระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-กรุงเทพมหานคร ให้เกิดเป็นโครงการนำร่อง และเห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรมภายในสิ้นปีนี้

สำหรับฝุ่นที่ กทม.ไม่ได้ผลิตเอง จะประสานกระทรวงมหาดไทย เร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในเขตปริมณฑล ส่วนฝุ่นที่ได้รับจากประเทศทางตะวันตกจะแจ้งไปยังเลขาธิการอาเซียนเพื่อขอความร่วมมือ

“200 นโยบายของผู้ว่าฯ มี60 นโยบายที่เกี่ยวข้องกระทรวงทรัพย์ฯ ซึ่งจะเร่งต่อยอดนโยบายเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพดียิ่งขึ้น”

นายชัชชาติ กล่าวว่า ขอบคุณรัฐมนตรี สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งขยะ น้ำเสีย และ PM 2.5 เป็นเรื่องที่ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง หลายเรื่องกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ทำไปแล้ว เช่น นักสืบฝุ่น แอปพลิเคชันปลูกต้นไม้ หากร่วมมือกันจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว เพราะ กทม.ทำคนเดียวอาจจะไม่สำเร็จจะต้องร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย

หลายนโยบายของกระทรวงคล้ายกัน เช่น การหาต้นตอ PM 2.5 การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดฝุ่น ของกระทรวงมี 12 จุด กทม.จะนำประชาชนมาร่วมทำเซ็นเซอร์ให้มากขึ้น ก็จะมาทำร่วมกันเป็นแผนระยะยาว ส่วนคาร์บอนเครดิต กระทรวงร่วมกับองค์การก๊าซเรือนกระจกอยู่แล้ว เป็นพื้นฐานของการทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ดูว่าต่อปีเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าไร เรามีตัวเลข 42 ล้านตันต่อปี แต่นานมาแล้วคงต้องอัปเดตเพื่อหามาตรการต่อไป

ส่วนประเด็นฝุ่นข้ามจังหวัด ต้องร่วมกับกระทรวงที่มีข้อมูลฝุ่นที่มาจากการเผาชีวมวล และโรงงานอุตสาหกรรมรายจังหวัด กทม.อาจอาศัยกรมควบคุมมลพิษบังคับใช้นอกพื้นที่

Related Posts

Send this to a friend