ที่ประชุม กทช. ไฟเขียวผลักดันกฎหมายขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูทะเลและชายฝั่งไทย

ที่ประชุม กทช. ไฟเขียวผลักดันกฎหมายขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูทะเลและชายฝั่งไทย พร้อมติดตามการแก้ปัญหาหญ้าทะเลเสื่อมโทรม-การแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ
วันนี้ (22 พ.ค. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ (กทช.) ครั้งที่ 1/2568
นายประเสริฐ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องสำคัญ ได้แก่ (ร่าง) รายงานสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศ พ.ศ.2567 มีประเด็นที่ควรได้รับการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน คือ ปัญหาแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรมในพื้นที่จังหวัดตรัง-กระบี่ ปัญหาการตัดต้นไม้พื้นที่ป่าชายเลนที่เป็นพื้นที่เอกสารสิทธิ์ และปัญหาความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลพื้นฐานของประเทศในการรองรับการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดชุมพร-ระนอง อีกทั้งยังติดตามการแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของคุณภาพน้ำและการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่อ่าวไทยตอนใน และการระบาดของปลาหมอคางดำ
ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบร่างกฎกระทรวงฯ ตามมาตรา 20 เพื่อเป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 2 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่บริเวณแนวปะทะกระแสน้ำไหล่ ทวีปทะเลอันดามันของประเทศไทย และพื้นที่อุทยานการเรียนรู้ใต้ทะเล เขาหลัก ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งทั้ง 2 เป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์ แต่มีการเข้าใช้ประโยชน์ อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากร จึงจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มครอง นอกจากนี้ ยังเห็นชอบ (ร่าง) กฎกระทรวงตามมาตรา 21 เพื่อกำหนดเขตพื้นที่ใช้มาตรการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ครอบคลุม 27 ระบบหาด ซึ่งเป็นพื้นที่ชายหาดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว
ด้าน ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานข้อมูลสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่ 24 จังหวัดชายฝั่ง ในรอบ 6 เดือน (พฤศจิกายน 2567 – เมษายน 2568) พบว่า สถานการณ์หญ้าทะเลเสื่อมโทรมเกิดจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ ทำให้พะยูนอพยพย้ายถิ่นไปยังแหล่งหญ้าทะเลอื่นเพื่อหาอาหาร ซึ่งที่ผ่านมากรมฯ แก้ไขปัญหาพะยูนและหญ้าทะเล ผ่าน 4 มาตรการ ได้แก่
1) สำรวจพะยูนและประเมินหญ้าทะเลให้เป็นปัจจุบัน
2) ประกาศพื้นที่คุ้มครองและบังคับใช้มาตรการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
3) วางแผนช่วยเหลือพะยูนที่มีชีวิตด้วยการทดลองให้อาหารเสริมทดแทนหญ้าทะเล
4) ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล
ส่วนอีกสถานการณ์ที่ยังคงเป็นประเด็นปัญหาต่อเนื่อง คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ กรมฯ ได้สำรวจติดตามปลาหมอคางดำในระบบนิเวศทางทะเล จากการสำรวจพบการแพร่กระจาย 14 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย โดยระบบนิเวศที่พบปลาหมอคางดำ ได้แก่ ปากแม่น้ำ แหล่งหญ้าทะเล และหาดทราย แต่ไม่พบในระบบนิเวศปะการัง ทะเลสาบสงขลา และในทะเลฝั่งอันดามัน
นอกจากนี้ ได้ติดตามตรวจสอบพื้นที่ชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลมรสุม โดยมีพื้นที่ชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบ 8 จังหวัด จังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงสุด คือ นครศรีธรรมราช โดยกรมฯ ได้ออกประกาศเตือนภัยผ่านระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล