ENVIRONMENT

ผลตรวจดินขุดลอกแม่น้ำสาย พบปนเปื้อนสารโลหะหนักเกินมาตรฐานที่อยู่อาศัย

ผลตรวจดินขุดลอกแม่น้ำสาย พบปนเปื้อนสารโลหะหนักเกินมาตรฐานที่อยู่อาศัย-ห้ามสัมผัสโดยตรง สคพ.ลุยเก็บตัวอย่าง เตรียมแจ้งเตือน-ออกมาตรการแต่ละจุด

นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (สคพ.) เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักวิชาการออกมาทักท้วงถึงการขุดลอกดินจากแม่น้ำกกและแม่น้ำสายขึ้นมาบนตลิ่งอาจทำให้สารโลหะหนักที่เกินค่ามาตรฐานแพร่กระจายออกไปว่า ได้เคยมีการนำดินจากการขุดลอกในแม่น้ำสายขึ้นมาตรวจในบางจุดซึ่งผลมาพบว่ามีค่าสารหนู 12 มิลลิกรัม/กิโลกกรัม ซึ่งมาตรฐานของดินใช้ในที่อยู่อาศัยอยู่ที่ไม่เกิน 6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

ส่วนมาตรฐานเพื่อการค้า เกษตรกรรมและการอื่นไม่เกิน 25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม นั่นหมายความว่าดินส่วนนี้เอาไว้ในบ้านก็ไม่เหมาะ แต่หากเอาไว้บริเวณรอบและปลูกหญ้าคลุมได้

“เราต้องดูก่อนว่าจะเอาดินกองนี้ไปทำอะไร มีวิธีป้องกันหรือไม่ อยู่ใกล้คนมั้ย ค่าของการปนเปื้อนอยู่ที่ 12 คือไม่ควรเอาไปไว้ในบ้าน หรือปล่อยให้เด็กมาเล่น ก็ควรมีข้อห้าม ซึ่งคงต้องออกมาเป็นคำเตือน เรากำลังดูรายละเอียดแต่ละจุด ตอนนี้ทางเราต้องตรวจหลายอย่าง ต้องพยายามทำตามศักยภาพที่มีให้ดีที่สุด วันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บตัวอย่างดินที่ขุดขึ้นมาจากแม่น้ำ หากได้ผลตรวจแต่ละจุดออกมา หากมีพบว่ามีการปนเปื้อนก็จะมีคำเตือนและมาตรการออกมา ไม่ใช่กองไว้แล้วใครจะเอาไปถมบ้านก็ได้ หรือเกิดน้ำท่วมแล้วเอากระสอบทรายมาใส่ มันต้องมีวิธีการแจ้งเตือน” นายอาวีระ กล่าว

วันเดียวกัน ศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อการรับรู้ และติดตามสถานการณ์น้ำเชียงราย (AIM) รายงานว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ชียงราย ปลัดอำเภอแม่สาย และเจ้าหน้าที่กรมการทหารช่าง ได้ลงพื้นที่ดำเนินการเก็บตัวอย่างตะกอนดินที่มีการขุดลอก ได้แก่ แม่น้ำรวก แม่น้ำสาย และแม่น้ำกก เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์หาการปนเปื้อนของโลหะหนักและสารอันตรายต่างๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

พื้นที่แรกที่เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบคือบริเวณบ้านวังลาว ต.เวียง อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นจุดท้ายโครงการขุดลอกของแม่น้ำรวก และเชื่อมต่อระหว่างอำเภอแม่สายกับอำเภอเชียงแสน พื้นที่ดังกล่าวมีการขุดลอกลำน้ำและนำดินขึ้นมากองเป็นแนวคันดิน เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างดินทรายบรรจุถุงพลาสติก น้ำหนักถุงละประมาณ 1 กิโลกรัม เพื่อส่งตรวจในห้องปฏิบัติการของกรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยผลการวิเคราะห์คาดว่าจะทราบภายใน 2 สัปดาห์

ในส่วนของลำน้ำสาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย–เมียนมา กรมการทหารช่างได้ดำเนินการขุดวางแนวพนังกั้นน้ำ และมีการเก็บตะกอนดินทรายที่ขุดขึ้นมาบรรจุในถุงบิ๊กแบ็คอย่างเรียบร้อย โดยไม่มีการฟุ้งกระจายของตะกอนดินออกสู่ภายนอก สำหรับการขุดลอกในฝั่งเมียนมา เป็นความรับผิดชอบของทางการเมียนมา ซึ่งนำตะกอนไปทิ้งในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ในฝั่งประเทศตนเอง

นอกจากนี้คณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังบริเวณหาดเชียงราย เพื่อเก็บตัวอย่างตะกอนดินทรายจากแม่น้ำกก ซึ่งมีการขุดลอกโดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 ตัวอย่างทั้งหมดจะถูกส่งตรวจวิเคราะห์ในลักษณะเดียวกัน เพื่อประเมินความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อม และลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน

สำหรับกระบวนการตรวจวิเคราะห์นั้น มีการดำเนินการ ได้แก่ การตรวจตามมาตรฐานคุณภาพดิน เพื่อประเมินว่าตะกอนดินจากการขุดลอกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้หรือไม่ โดยจะส่งตัวอย่างให้ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมของกรมควบคุมมลพิษเป็นผู้ดำเนินการและ การตรวจสอบว่าเป็น “ของเสียอันตราย” หรือไม่ ด้วยการทดสอบลักษณะและองค์ประกอบของสารปนเปื้อนตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น การทดสอบ Leaching Test , TTLC และ STLC ซึ่งเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2566 โดยในส่วนนี้ประสานความร่วมมือกับศูนย์วิจัยและเตือนภัยมลพิษโรงงานภาคเหนือ เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการขุดรอกแม่น้ำสายโดยเป็นความรับผิดชอบของทางการเมียนมา แต่ทหารช่างได้ทำการขุดดินในแม่น้ำสายเพื่อใช้ในการทำพนังกั้นแม่น้ำ ขณะที่แม่น้ำรวกซึ่งมีค่าโลหะหนักเกินมาตรฐานได้มีการขุดลอกเช่นเดียวกัน ส่วนแม่น้ำกกขณะนี้ทหารช่างกำลังทำการขุดลอกดินขึ้นมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในการรับมือน้ำท่วมจังหวัดเชียงราย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat