ชู ‘ฉลากสิ่งแวดล้อม’ เครื่องมือเศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ชู ‘ฉลากสิ่งแวดล้อม’ เครื่องมือเศรษฐกิจยุคใหม่ สร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) จัดสัมมนา ‘TEI-Ecolabelling Forum 2025: Ecolabel for the Future ฉลากสิ่งแวดล้อมกับการสร้างมูลค่าใหม่ทางธุรกิจ’ ย้ำบทบาท ‘ฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม’ เครื่องมือทางเศรษฐกิจที่จำเป็นสำหรับภาคธุรกิจไทยในการแข่งขัน
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า การค้าในตลาดโลก ฉลากสิ่งแวดล้อมคือกลไกสำคัญหนึ่งที่ขับเคลื่อนตลาดสีเขียว โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของภาครัฐ ฉลากเขียวของประเทศไทยยังเชื่อมกับฉลากสิ่งแวดล้อมโลก Global Ecolabelling Network (GEN) ซึ่งมีข้อตกลงร่วมกันกว่า 15 ประเทศสมาชิก ช่วยให้ผู้ผลิตขอการรับรองฉลากเขียวของประเทศที่เราลงนามข้อตกลงได้สะดวกขึ้น
ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เป็นกลุ่มที่เติบโตมากที่สุด เนื่องจากใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในสำนักงาน กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ตลอดจนงานบริการ เช่น งานบริการทำความสะอาด งานบริการโรงแรม งานบริการซักรีด งานบริการเช่าเครื่องพิมพ์เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น
ภายในงานยังจัดพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการที่มุ่งดำเนินงานจนได้รับการรับรองมาตรฐานฉลากสิ่งแวดล้อม ได้แก่ ฉลากเขียว ฉลากผลิตภัณฑ์หมุนเวียน (Circular Mark) ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (EPD) และ Inno-Green Station ประจำปี 2567-2568 รวม 70 บริษัท
ปัจจุบันฉลากสิ่งแวดล้อมกลายเป็นมาตรฐานสำคัญที่สะท้อนความรับผิดชอบของผู้ผลิต และเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภาคธุรกิจในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ปลดล็อกโอกาสในตลาดการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวที่มีมูลค่ามหาศาล เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับสินค้าไทยในตลาดโลกที่ใช้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมเป็นเกณฑ์
