ผบช.ภาค 9 ระดมกำลังติดตาม 2 คนร้าย ก่อเหตุกราดยิงรถตำรวจสะบ้าย้อย

ผบช.ภาค 9 ระดมกำลังติดตาม 2 คนร้าย ก่อเหตุกราดยิงรถตำรวจสะบ้าย้อย ส่งผลกระทบสามเณรและพระสงฆ์ คาดเป็นกลุ่มปฏิบัติการในพื้นที่

วันนี้ (22 เม.ย. 68) ความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงใส่ รถยนต์กระบะ อีซูซุ 4 ประตูสีดำ ซึ่งเป็นรถของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน ตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ขณะไปรับพระและสามเณร จำนวน 6 รูปจากวัดวัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า เพื่อไปบิณฑบาตรในเขตเทศบาลตำบลสะบ้าย้อย

เหตุเกิดบนถนนสวนโอน-บ้านคลองเรียน หมู่ 6 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ห่างจากวัดกุหร่า ประมาณ 500 เมตร ทำให้สามเณรที่นั่งมาในรถกระบะถูกยิงบาดเจ็บ 2 รูป ขณะที่เหตุ ร.ต.ท.วัฒนา ได้ใช้อาวุธยาว และปืนสั้นยิงตอบโต้คนร้ายไปเพื่อเปิดทาง และรีบขับรถออกจากพื้นที่เกิดเหตุพาสามเณรที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลสะบ้าย้อย แต่ สามเณร พงษ์กร ชูมาปาน อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของ ร.ต.ท.วัฒนา เสียชีวิต ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ อายุ 12 ปี ได้รับบาดเจ็บ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจทหารและฝ่ายปกครองยังคงตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่จุดเกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปเคลียร์พื้นที่ และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานตรงจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งตรวจสอบหาหลักฐานภายในรถยนต์กระบะ อีซูซุ 4 ประตูสีดำ ทะเบียน ฎบ 6771 กรุงเทพฯ ของ ร.ต.ท.วัฒนา ชูมาปาน ตำรวจ สภ.สะบ้าย้อย

ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่าคนร้ายมี 2 คนขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา และขับตามหลังรถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ก่อนที่จะลงมือกระหน่ำยิงมาจากข้างหลัง และเชื่อว่าน่าจะมาดักซุ่มรออยู่ก่อนแล้วเมื่อรถกระบะคันนี้ขับออกจากวัดจึงตามมาก่อเหตุ

ส่วนร่างของ สามเณรพงษ์กร ชูมาปาน อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรชาย ร.ต.ท.วัฒนา ที่ถูกยิงจนเสียชีวิตนั้นทางโรงพยาบาลสะบ้าย้อยได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เพื่อทำการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง

ล่าสุด พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค9 ได้ลงพื้นที่ประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่สภ.สะบ้าย้อย เพื่อติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าเหตุการณ์นี้พร้อมกับสั่งการให้เร่งติดตามหาเบาะแสล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ

ในทางคดี พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 ซึ่งลงพื้นที่ติดตามเหตุการณ์และประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจทหารและฝ่ายปกครองที่ อ.สะบ้าย้อย ทั้งในส่วนของการดำเนินคดีการติดตามจับกุมคนร้ายและการวางมาตรการป้องกันรักษาความปลอดภัย

พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มปฏิบัติการในพื้นที่ ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุและหาเบาะแสของคนร้ายควบคู่ไปกับการวางมาตรการป้องกันของฝ่ายความมั่นคง 3 ฝ่ายทั้งตำรวจทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายขึ้นอีก เหตุการณ์ทำร้ายพระสงฆ์ไม่เคยเกิดขึ้นมานานเพราะชาวบ้านในพื้นที่อยู่กันแบบพหุวัฒนธรรม แต่มีคนเพียงกลุ่มเดียวที่ก่อเหตุรุนแรงเพื่อสร้างสถานการณ์

สำหรับสามเณรที่ถูกลอบยิงในครั้งนี้ทราบว่ามาบรรพชาภาคฤดูร้อนที่วัดเกาะอภินิหารหรือวัดกุหร่า แห่งนี้ 5 รูปซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และมีความศรัทธาในวัดนี้และเพิ่งจะออกบิณฑบาตรได้แค่2วันเท่านั้นโดยจะออกไปบิณฑบาตในตัวเมืองสะบ้าย้อย

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ในทางการข่าวคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มของ นายอับดุลเลาะ บาราเฮง นายอาฟิส โต๊ะแวมะ และนายมูฮัมหมัด ซาบูกัน แวฮายี ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรือดีโอดี ได้เข้าเคลียร์ พื้นที่ตรงบริเวณจุดเกิดเหตุแล้วซึ่งอยู่บนถนนสวนโอน-บ้านคลองเรียน หมู่6 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ห่างจากวัดกุหร่า ประมาณ 500 เมตร เพื่อเปิดทางให้ตำรวจเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุและหาวัตถุพยานต่างๆ โดยพบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.56 ซึ่งเป็นปลอกกระสุนปืนที่ใช้กับปืนสงครามอาร์ก้า ตกอยู่
ในที่เกิดเหตุด้วย

ในขณะที่บรรยากาศที่วัดเกาะอภินิหาร หรือวัดกุหร่า หลังเกิดเหตุมีชาวบ้านบางส่วนเข้าไปเยี่ยมพระและติดตามสอบถามเหตุการณ์นี้ โดยเจ้าอาวาสได้บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า สามเณรเพิ่งมาบรรพชาภาคฤดูร้อนที่วัดนี้ได้แค่ 3 วันและจะลาสิขาในวันที่ 26 เมษายนนี้

ส่วนรถกระบะของ ร.ต.ท.วัฒนา ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำมาจอดไว้ที่ สภ.สะบ้าย้อย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานเสร็จแล้ว โดยพบวิธีกระสุนถูกยิงถล่มบริเวณตัวรถ 12 รู กระจกหน้า1 รู กระจกประตูขวาฝั่งคนขับ 1 รูขอบประตูขวา1 รู โดยเฉพาะที่กระจกหลังถูกยิงจนพรุน

สรุปเหตุการณ์นี้ขณะเกิดเหตุในรถกระบะคันนี้มากันทั้งหมด 7 คน เป็นพระ 3 รูป สามเณร 3 รูป และคนขับที่เป็นตำรวจ 1 นาย โดยมีพระนั่งอยู่เบาะหน้า 1 รูป สามเณรนั่งแคปหลัง 3 รูปซึ่งเป็นสามเณรที่ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนกระบะท้ายมีพระ 1 รูป และสามเณรอีก 2 รูป

ขณะเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนขับรถจักรยานยนต์มาซุ่มรอจังหวะรถยนต์ขับมาแล้วเปิดฉากยิงมาจากด้านหน้ารถกระบะ และฝั่งประตูด้านข้างคนขับ และไปกราดยิงมาจากข้างด้านหลังรถกระบะ แต่ถูก ร.ต.ท.วัฒนา ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนหมดแม็คทำให้คนร้ายต้องถอยและขับรถหนีไป

ภรรยา ร.ต.ท.วัฒนา ระบุว่าได้เตือนให้ ร.ต.ท.วัฒนา ระวังตัวไว้แล้วเพราะว่าในช่วง 2 วันที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่าจะมีรถจักรยานยนต์ขับติดตามความเคลื่อนผิดสังเกตจนกระทั่งมาถูกยิงในช่วงเช้าวันนี้

ส่วนร่างของ สามเณร พงษ์กร ที่ถูกยิงมรณภาพ และถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ญาติจะรับกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดทำเนียบธรรมาราม ที่ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา