DEEPSOUTH

‘ปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ’ ได้รับเลือกทำเมนูให้กับผู้นำเอเปค 2022

เมนูที่ได้คัดสรรเป็นอาหารสำหรับเสิร์ฟในงานกาล่าดินเนอร์ สำหรับผู้นำประเทศเอเปค 2022 คือ ปลากุเลาเค็มตากใบ ซึ่งภาษาพื้นถิ่นยาวี เรียกว่า ‘อีแกลาง๊ะมาเซ็ง’ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะของชาวอำเภอตากใบ ที่ในอดีตคือการเก็บรักษาคุณภาพปลาไม่ให้เน่าเสีย แถมยังสามารถเก็บไว้กินได้นาน มีการขึ้นทะเบียนสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications: GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ให้สมญานามว่า เป็นราชาแห่งปลาเค็ม

ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วน เป็นร้านหนึ่งเดียว ที่ได้รับการคัดสรรให้ผู้นำประเทศเอเปค ได้ลิ้มรสชาติ เป็นส่วนผสมของเซทอาหารจานหลัก เป็นซอสราดมัสมั่นเนื้อน่องโคขุน จากสหกรณ์โพนยางคำจังหวัดสกลนคร และข้าวกล้อง 9 ชนิด อบตะไคร้หอม เพื่อเพิ่มรสชาติให้โดดเด่นขึ้น 

ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ เป็นร้านจำหน่ายปลากุเลาเค็ม ดั้งเดิม เปิดมานานกว่า 35 ปี ทำให้ปลากุเลาเค็มของป้าอ้วน เนื้อปลาจะแห้งมีกลิ่นหอม มีรสชาติความเค็มที่กลมกล่อม เมื่อนำมาทอดเนื้อจะฟูและร่วนซุยแทบละลายในปาก 

เมนูที่ทำง่ายและการันตีถึงความอร่อย คือ ปลากุเลาเค็มทอด โรยด้วยพริกซอย หอมแดงซอย โรยน้ำตาลเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยน้ำมะนาวบีบสักนิดนำไปคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยแล้ว หรือหากจะนำไปดัดแปลงเป็นข้าวผัดปลากุเลาเค็มใส่คะน้า หรือหลนปลากุเลาเค็ม ก็จะได้รสชาติความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป

นางสาวพรจรัส ปฐมศิริกุล อายุ 36 ปี เจ้าของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ ได้พาไปชมกระบวนการทำปลากุเลาเค็ม ที่มีขั้นตอนไม่ง่าย และไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องมีความอดทนเป็นเลิศ ปลากุเลาเค็มแต่ละตัวต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ 

เริ่มแรก ต้องนำปลากุเลามาขอดเกล็ดออก ควักไส้ทิ้ง แล้วนำมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำเกลือเม็ดมาใส่ลงไปในท้องปลาอัดจนแน่น พร้อมทั้งโรยเกลือให้ทั่วทั้งตัว ใส่ไว้ในภาชนะ 2 วัน 

เมื่อถึงกำหนด 2 วัน นำปลาออกมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปแขวนในราวที่มีการผนึกตะข่ายไว้รอบด้านเพื่อกันแมลงวัน หลังจากนั้นจะนำปลาที่แขวนตากแดดไว้ตลอดทั้งวัน มาใช้ขวดคลึงไปมาบนเนื้อปลาทั้ง2 ด้าน แล้วนำไปเก็บไว้ 

ทำอย่างนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ทุกวัน จนกว่าปลากุเลาที่นำไปตากแดดจนแห้ง ถือว่าจบกระบวนการทำปลากุเลาเค็ม 

“ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปลากุเลาเค็มตามใบ มีราคาค่อนข้างสูง เป็นเพราะเราต้องซื้อปลาจากชาวบ้านในราคาประมาณกิโลกรัมละ 380 บาท และเมื่อผ่านกระบวนการผลิตเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว น้ำหนักปลาจะเหลือเพียงครึ่งเดียว นอกจากนี้ปลากุเลาเค็มตากใบแต่ละตัวจะต้องผ่านกระบวนการผลิตโดยใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ จึงทำให้ราคาปลากุเลาเค็มป้าอ้วนมีราคาจำหน่ายโดยเฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,700 ถึง 1,800 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวปลา”

ปัจจุบันปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ ได้มีการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ จนได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ผ่านมาตรฐานฮาลาล และเป็นสินค้าโอทอประดับ 5 ดาว ประเภทอาหาร ตามโครงการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ปี พ.ศ.2562 เป็นการการันตี

เจ้าของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบ ยังกล่าวอีกด้วยว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเลือกให้ขึ้นโต๊ะอาหารผู้นำเอเปค ทำให้กลุ่มผู้ค้าปลากุเลาเค็มตากใบ แต่ละเจ้ามียอดสั่งซื้อมากขึ้น ส่วนปลากุเลาเค็มของป้าอ้วนนั้นจะมีกลิ่นหอม เนื้อปลาละเอียด และตัวใหญ่ 

ปลากุเลาเค็มของป้าอ้วน ตัวเล็ก จำหน่ายกิโลกรัมละ 1,700 บาทพร้อมส่ง ตัวขนาด 1 กิโลกรัมขึ้นไปจำหน่ายตัวละ 1,800 บาทพร้อมส่งเช่นกัน

สำหรับผู้บริโภคที่สนใจจะซื้อหาปลากุเลาเค็มของป้าอ้วน สามารถติดต่อได้หลายช่องทาง คือ โทรศัพท์ 073 581155 มือถือเบอร์ 083 1702788 หรือ 086 9636422 ทางไลน์ ไอ.ดี. 083 1702788 หรือทางเฟซบุ๊ก https//www.facebook.com.plakulao

Related Posts

Send this to a friend