แม่ทัพภาค 4 แถลงผลบังคับใช้กฎหมายพื้นที่ชายแดนใต้
แม่ทัพภาค 4 แถลงผลบังคับใช้กฎหมายพื้นที่ชายแดนใต้ ส.ค. คุมตัวผู้ต้องสงสัย 21 ราย เกี่ยวข้องคดีสำคัญ ย้ำ รู้ตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด ด้าน ผบก.สส.จชต. ชี้ เหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม คนร้ายมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์ อยู่ระหว่างรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์
วันนี้ (2 ก.ย. 68) พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงผลการปฏิบัติงานการบังคับใช้กฎหมายด้านความมั่นคงในเดือนสิงหาคม
พล.ท.ไพศาล กล่าวว่า ห้วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนบังคับใช้กฎหมายโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 21 ราย อยู่ระหว่างซักถาม 14 ราย ทุกคดีเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมด อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ
พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุที่เกิดขึ้นวานนี้ (1 ก.ย.) ว่าการก่อเหตุมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์อย่างชัดเจน คนร้ายใช้ระเบิดที่ออกแบบมาสำหรับทำลายตู้เซฟโดยเฉพาะ มีการวางแผนเตรียมการและจุดชนวนด้วยรีโมต เป็นการกระทำของกลุ่มที่มุ่งทำลายระบบเศรษฐกิจและประสงค์ต่อทรัพย์ ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้เงินไปจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มเดิมหรือกลุ่มใหม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานและรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันอีกครั้ง
ผลการบังคับใช้กฎหมายในเดือนสิงหาคม เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 15 ครั้ง ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 21 ราย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายเหตุการณ์สำคัญ เช่น เหตุยิงนายนิตย์ชัย หมานแก้ว ที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 68 เหตุลอบยิงและวางระเบิดตำรวจ สภ.รือเสาะ เหตุยิงนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ และเหตุลอบวางระเบิดและโจมตีที่ว่าการอำเภอสุไหงโกลก จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีต่าง ๆ 17 คน
