The Reporters สอบถามหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติภาพ BRN ว่า การที่ BRN เข้าร่วมเจรจาสันติภาพ จะสวนทางกับการต่อสู้ด้วยอาวุธของ BRN ที่ยังมีอยู่ในพื้นที่หรือไม่
นายอานัส ตอบว่า การเข้าร่วมกระบวนการพูดคุย BRN ไม่ได้หยุดทางการทหาร แต่การเจรจาเป็นเรื่องทางการเมือง ที่มีความจำเป็นต่อการสร้างสันติภาพ ซึ่งนี่คือทางเลือกสำคัญ ที่ BRN เชื่อว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายอานัส ย้ำว่า จุดยืนสำคัญของขบวนการ BRN คือต้องการเอกราช ตามชื่อ ของขบวนการ BRN ที่ว่า ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานี Barisan Revolusi Nasional Melayu Patani แต่ในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพนั้น BRN เห็นว่า จะต้องยึดเจตนารมณ์ของประชาชนด้วย BRN จึงอยากให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมมากที่สุดในการกำหนดชะตากรรมของตนเอง เพราะ BRN จะเดินโดยลำพังไม่ได้
You will never walk alone
หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขขบวนการ BRN ย้ำว่า การเข้าร่วมพูดคุยเพื่อสันติภาพของ BRN ในครั้งนี้ จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
สำหรับข้อเสนอ 5 ข้อเดิมที่เคยเสนอในสมัยของนายฮัสซัน ตอยิบ เมื่อ 7 ปีก่อน นายอานัส เปิดเผยว่า ยังมีอยู่แต่ต้องเดินไปตาม Road Map ซึ่งต้องรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ทุกภาคส่วน ทั้ง Ngo,Cso และประชาชนทุกชาติพันธุ์ทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นอิสลาม จีน และพุทธ
“การที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมกับ BRN เราไม่ได้เจาะจงชาวมลายู แต่ชาติพันธุ์ ศาสนาอื่น ก็เป็น หุ้นส่วนสำคัญของเรา” นายอานัส ย้ำ
The Reporters ถามว่า 15 ปีที่ผ่านมา คนพุทธในพื้นที่คิดว่า การใช้ความรุนแรงของ BRN ต้องการกดดันให้คนพุทธออกจากพื้นที่หรือไม่
นายอานัส ตอบว่า นโยบายของ BRN ไม่ได้แบ่งแยกชาติพันธุ์ ทุกคนที่อยู่ในปาตานี มีสิทธิมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอย่างชื่อย่อตัวสุดท้าย N คือ National ไม่ว่าพุทธ จีน อิสลาม เราไม่ได้แบ่งแยก BRN ต่อสู้เพื่อชนชาติในปาตานี เพื่อสันติภาพที่แท้จริง นี่คือนโยบายของ BRN
“BRN พยายามสร้างความเข้าใจทุกศาสนา สร้าง ปาตานี ที่สงบสุขอย่างแท้จริง จึงฝากถึง พี่น้องพุทธ มุสลิม และทุกคนว่าเรา พยายามทุกสิ่งทุกอย่างในการแก้ปัญหา จึงขอประชาชนอยู่เคียงข้างเรา”