กรมวิทย์ ยืนยัน ผลตรวจ นทท.หนีจากโรงแรมเป็นเชื้อโอมิครอน แต่เป็นขาลง
กรมวิทย์ ยืนยัน ผลตรวจนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเป็นเชื้อโอมิครอน แต่อยู่ในช่วงเชื้อขาลง โอกาสแพร่เชื้อน้อย ด้าน รมว.สธ. ย้ำ ต้องดำเนินคดี เพราะถือว่าละเมิดกฎหมายในประเทศ
วันนี้ ( 23 ธ.ค. 64 ) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เข้าประเทศไทยผ่านระบบ Test & Go ตรวจ RT-PCR พบติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ก่อนจะหลบหนีออกจากโรงแรมย่านสุขุมวิทไปยังเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยโรงพยาบาลเกาะสมุยตรวจผลออกมาเป็นลบ จนสร้างความสับสนให้กับสังคม
ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวคนดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผ่านระบบ Test & Go และได้รับรายงานว่าผลตรวจติดเชื้อโควิด19 ในวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งผลตรวจไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจหาสายพันธุ์ด้วยระบบถอดรหัสพันธุกรรมในห้องปฏิบัติการ พบว่าติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา จากนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้หลบหนีออกจากสถานที่กักตัว นาน 2-3 วัน จนกระทั่งพบตัวที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และเมื่อตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 2 แห่งบนเกาะสมุย กลับพบว่า มีผลเป็นลบไม่พบเชื้อ
นพ.ศุภกิจ ระบุว่า ตามปกติ หากคนที่มีเชื้อมากจะปั่นเชื้อเพียงไม่กี่รอบก็สามารถตรวจเจอเชื้อได้ กรณีของนักท่องคนดังกล่าวปั่นถึง 30 วงรอบ ยิ่งไปถึงสมุย 2-3 วัน เชื้อยิ่งเหลือน้อย จึงตรวจไม่เจอ จึงค่อนข้างสบายใจว่าโอกาสในการแพร่เชื้อมีน้อย แต่ยังสามารถติดได้ ขณะนี้ถือว่านักท่องเที่ยวคนดังกล่าวผลเป็นลบ แต่มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ โดยล่าสุด โรงพยาบาลสมุยได้ส่งเชื้อตรวจเพิ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานีแล้ว จะทราบผลช่วงบ่ายวันนี้
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ต้องดำเนินคดี เพราะสืบสวนแล้วพบว่า นักท่องเที่ยวคนนี้ไม่ยอมรอผลตรวจ เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เท่ากับละเมิดกฎหมายในประเทศไทย หากติดเชื้อโควิดทางการจะรักษาให้ตามสิทธิประกันสุขภาพที่ซื้อไว้ก่อนเดินทางเข้ามา แต่เมื่อรักษาหาย ก็ต้องรับโทษที่ก่อไว้ แต่หากไม่ติดเชื้อ ก็ต้องถูกลงโทษทันที เพราะถือว่าได้ทำผิดกฎหมายประเทศไทย อีกประเด็นคือ โรงแรมต้องรับผิดชอบ ที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวออกมา ส่วนกระทรวงก็ต้องกลับมาดูว่ามาตรการมีช่องโหว่ตรงไหน เพื่อรีบอุดช่องโหว่นั้นโดยเร็ว
