PUBLIC HEALTH

สธ.-ศธ. แจงมาตรการ “เปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19 ในสถานศึกษา”

นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปีการศึกษา2565 นี้ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ปรับเปลี่ยนมาตรการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยวันนี้ (4 พ.ค. 65) ได้มีการประชุมชี้แจงมาตรการ “เปิดเรียน On-Site ปลอดภัย อยู่ได้กับโควิด-19 ในสถานศึกษา” เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ด้วยหลักการพื้นฐาน 3T 1V หรือ ตัดความเสี่ยง เพิ่มภูมิคุ้มกัน และมาตรการ 6-6-7

ส่วนโรงเรียนประจำ ยังต้องดำเนินการตาม Sandbox Safety zone in School เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ที่โรงเรียนได้อย่างเต็มที่ ตามมาตรการดังนี้

1) เร่งรัดการฉีดวัคซีนตามความสมัครใจให้ครอบคลุม

2) สถานศึกษาต้องเข้ารับการประเมิน Thai Stop COVID Plus โดยต้องผ่านการประเมินมากกว่าร้อยละ 95

3) เน้นย้ำการทำตามแผนเผชิญเหตุเมื่อเจอผู้ติดเชื้อหรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

4) เน้นย้ำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดให้ปฏิบัติตามมาตรการ โดยมอบหมายให้ศูนย์อนามัยในเขตสุขภาพเป็นพี่เลี้ยง

สำหรับแผนเผชิญเหตุฝยภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2565 หากพบผู้ติดเชื้อในโรงเรียนประจำให้แยกกักตัวที่โรงเรียน (School Isolation) ตามมาตรการ Sandbox: Safety Zone in School (SSS) ส่วนโรงเรียนไป-กลับ ให้ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข หรือพิจารณาจัดทำ School Isolation โดยคณะกรรมการสถานศึกษา หน่วยงานสาธารณสุข ผู้ปกครอง ชุมชน พิจารณาร่วมกันให้ความเห็นชอบตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ หากพบผู้ติดเชื้อในห้องเรียน ให้ทำความสะอาดห้องเรียนตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข แล้วดำเนินการเรียนการสอนได้ตามปกติ ส่วนกรณีพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแต่ได้รับวัคซีนครบตามแนวทางปัจจุบัน และไม่มีอาการ ไม่แนะนำให้กักกัน พิจารณาให้เข้าเรียนได้ โดยพิจารณาร่วมกันระหว่างครอบครัว สถานบริการสาธารณสุข และสถานศึกษา แต่หากยังไม่ได้รับวัคซีน ให้แยกกักเป็นเวลา 5 วัน พร้อมติดตามเฝ้าระวังอีก 5 วัน รวมเป็น 10 วัน

ด้าน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่ทุกสถานศึกษาต้องทำก่อนเปิดภาคเรียน คือ ประเมินตนเองในระบบ Thai Stop COVID Plus ซึ่งเป็นมาตรการของกรมอนามัย มีอยู่ด้วยกัน 44 ข้อ เพื่อส่งไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดที่โรงเรียนตั้งอยู่ ให้พิจารณาอนุญาต

เมื่อเปิดเรียนในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ทุกสถานศึกษาต้องดำเนินงานตามมาตรการ 6-6-7 และประเมินตนเองผ่าน “ไทยเซฟไทย” โดยสิ่งที่ต่างจากภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 คือ การเว้นระยะห่างในห้องเรียน จะเหลือ 1 เมตร เท่ากับว่า ห้องเรียนปกติที่มีขนาด 8 X 8 เมตร สามารถจัดโต๊ะเรียนได้ 7 แถว แถวละ 6 ที่นั่ง รวม 42 คน ส่วนกรณีเป็นการเรียนในห้องปรับอากาศ ต้องมีการเปิดระบายอากาศ ทุก 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 10 นาที ในช่วงพัก

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการยังกล่าวถึงโอกาสติดเชื้อและแพร่เชื้อในโรงเรียนว่า การถอดหน้ากาก รับประทานอาหารร่วมกัน สนทนาระหว่างกันโดยไม่สวมหน้ากาก ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่โรงอาหารควรมีการแยกสำรับกับข้าว แยกพื้นที่งดการพูดคุยขณะรับประทาน และเมื่อมีการเล่นร่วมกัน ควรสวมหน้ากากตลอดเวลา

Related Posts

Send this to a friend