‘อนุทิน’ ตรวจเยี่ยม รพ.บุษราคัม พร้อมขยาย ศักภาพกรณีสถานการณ์ระบาดรุนแรงขึ้น
วันนี้ (3 มิ.ย. 64) ที่ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพก อารีนา เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลบุษราคัม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ตั้งขึ้นเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อาการปานกลาง (เกณฑ์สีเหลือง)
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้เปิดใช้งานโรงพยาบาลบุษราคัมไปแล้ว 2 เฟส รองรับผู้ป่วยได้กว่า 2,000 เตียง และพร้อมเปิดเฟส 3 – 4 เพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์ในอนาคต ทั้งนี้ ตนเองอยากเห็นยอดการติดเชื้อที่ชะลอตัวลง และโรงพยาบาล หยุดการให้บริการที่เฟส 2 เท่านั้น ส่วนเรื่องวัคซีน Sinovac เป็นวัคซีนที่ WHO ยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และไทย นำมาใช้เป็นวัคซีนเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้บริการไปแล้วจำนวนมาก และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม จะมีการนำเข้ามา เพื่อเพิ่มเติมจากวัคซีนหลักของแอสตร้าเซนเนก้า ให้ประเทศไทยมีจำนวนวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการที่ปัจจุบันนี้ มีเป้าหมายบริการประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้นสำหรับวัคซีนของไฟเซอร์ รวมไปถึงจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อยู่ระหว่างการหารือในขั้นตอนสุดท้ายแล้วสำหรับการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนขอย้ำว่า แต่ละพื้นที่จะส่งความต้องการเข้ามาให้ทาง ศบค.พิจารณาแล้วคำสั่งจะมาถึงกระทรวงสาธารณสุขให้จัดสรรลงไป กระทรวงฯ มีหน้าที่สนับสนุนงาน ตามนโยบายของ ศบค.
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ในการให้บริการวัคซีน สำหรับประชาชนทั่วไปนั้นจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนของแอสตร้าฯ ให้เป็นบทบาทของกรมควบคุมโรคกับทางผู้ผลิตต้องหารือให้ได้จุดลงตัวในแต่ละวันในแต่ละสัปดาห์ ส่วนการให้บริการรายวัน เมื่อเบิกวัคซีนออกมาจากตู้เก็บรักษา แล้วจะต้องให้ฉีดให้หมดมนวันนั้น เพราะไม่สามารถนำกลับมาเก็บที่ที่ตู้ได้
