การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศในแถบภูมิภาคอาเซียนด้วย โดยแต่ละประเทศต่างก็มีมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในขณะเดียวกันอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็เริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดลดน้อยลง เปิดโอกาสให้หลายธุรกิจกลับมาเปิดกิจการได้ตามปกติ แม้จะยังมีความกังวลหลังจากบทเรียนจากบางประเทศที่มีการกลับมาระบาดของโรคซ้ำสองหลังมีมาตรการผ่อนปรน
จากรายงานของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เผยว่าการท่องเที่ยว ค้าปลีก และธุรกิจบริการต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศใช้ ทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก ทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) การจ้างงานและอาชีพพื้นฐานที่มีความเสี่ยงต่าง ๆ ในขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังตอกย้ำถึงโอกาสฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวทั่วโลกเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรายงานจากหลาย ๆ แหล่ง ได้คาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า ในช่วงเริ่มแรกของการระบาดอาจส่งผลเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจทั่วโลก แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดที่รวดเร็วของไวรัสที่กระจายตัวทั่วโลก ยิ่งตอกย้ำภาพรวมเศรษฐกิจที่จะเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียนมีการปรับตัวเพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ โดย DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย และเว็บไซต์ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ได้จัดทำรายงานและวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวเพื่อเป็นแนวทางให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการได้พิจารณาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19