แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ทุ่ม 200 ล. ขยายโรงงานไอศกรีมผลไม้ รับออเดอร์ส่งออกล้น เปิดตัว ‘ซอร์เบแตงโมมินิ’

วันนี้ (29 พ.ค. 2568) นายฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานและก่อสร้างโรงงานผลิตไอศกรีมแห่งใหม่ เนื่องจากปริมาณคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมีจำนวนมาก โดยเฉพาะไอศกรีมผลไม้ไทยซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในตลาดโลก ล่าสุด บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือไอศกรีมซอร์เบในลูกแตงโมขนาดเล็กเป็นครั้งแรกของโลก
นายฐานพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังคงครองอันดับ 1 ของประเทศผู้ส่งออกไอศกรีมในภูมิภาคเอเชีย และเป็นอันดับ 4 ของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) อยู่ที่ปีละ 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.486 พันล้านบาท และมีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 11 ต่อปี ในส่วนของแม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป มีการเติบโตต่อเนื่องจนเป็นผู้ผลิตและส่งออกไอศกรีมอันดับ 9 ของไทย โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 โมจิไอศกรีมร้อยละ 20 และไอศกรีมซอร์เบผลไม้ชนิดถ้วยร้อยละ 10 โดยเป็นการส่งออกถึงร้อยละ 99
เพื่อแก้ไขปัญหาวัตถุดิบผลไม้ไม่เพียงพอจากปัญหาภูมิอากาศและภัยแล้ง และรองรับการเติบโต แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ได้ลงทุนกว่า 30 ล้านบาทในการพัฒนาพันธุ์และปลูกสับปะรดกว่า 1,300 ไร่ในจังหวัดเชียงราย และกว่า 100 ไร่ในจังหวัดสระบุรี ซึ่งคาดว่าจะให้ผลผลิตรวมประมาณ 10 ล้านชิ้นตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึงสิ้นปี 2568 นอกจากนี้ยังทำสัญญารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร (Farm Contact) อีก 30 ราย ครอบคลุมผลไม้ชนิดต่างๆ อีกประมาณ 1,000 ไร่ ทำให้สามารถผลิตไอศกรีมได้ตลอดปีและลดต้นทุนวัตถุดิบ
สำหรับการขยายโรงงานใหม่จะเพิ่มพื้นที่จาก 2,000 ตารางเมตร เป็น 5,000 ตารางเมตร ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากเดิมวันละ 30,000 ชิ้น เป็น 90,000 ชิ้น หรือจาก 350 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี เป็น 800 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี โรงงานใหม่นี้จะใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น การใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หมุนเวียนในการแช่แข็งไอศกรีมแทนไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการผลิตจาก 4 วันเหลือเพียง 12 นาที และประหยัดค่าไฟฟ้าจากเดือนละกว่า 1 ล้านบาท เหลือ 2 แสนบาทต่อเดือน รวมถึงมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์ การจัดการขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) และการหมุนเวียนน้ำเสียแบบ 100% เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน (ESG) ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัล CEO Economass Award 2024 และรางวัลบุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจแห่งปี 2024
ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวคือ ไอศกรีมซอร์เบในลูกแตงโมไซส์มินิ (Mini Watermelon Sorbet Ice Cream) ซึ่งบริษัทพัฒนาพันธุ์แตงโมให้มีขนาดเล็กโดยไม่มีการตัดต่อพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นภาชนะ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับความสนใจและมีคำสั่งซื้อจากหลายประเทศ โดยได้เริ่มส่งออกไปยังประเทศเกาหลีเป็นที่แรก ตลาดส่งออกหลักปัจจุบันมี 7 ประเทศ ได้แก่ เกาหลี จีน ซาอุดีอาระเบีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย และเวียดนาม โดยมีแผนขยายไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แอฟริกา และสหรัฐอเมริกา
นอกจากรับจ้างผลิต (OEM) แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ ยังเปิดตัวแบรนด์ของตนเองในชื่อ “แม็คซ์ เฟรช” (MaxFresh) เพื่อรุกตลาดยุโรปและอเมริกา คาดว่ารายได้รวมในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 10