BUSINESS

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว ดิจิทัลเซอร์วิส บริการเปลี่ยนและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าเป็นระบบดิจิทัล

นายวราชัย จตุรสถาพร รองประธาน ธุรกิจ Field Services ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา เจ้าของธุรกิจด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ด้านการบริหารจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน หรือ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ล่าสุดเปิดตัวดิจิทัลเซอร์วิส หรือการเปลี่ยนและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าให้เป็นระบบดิจิทัล ในทุกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม ด้วยเทคโนโลยี EcoStruxure หรือแอพพลิเคชั่น ที่พัฒนาขึ้นมาให้ทำงานเชื่อมโยงกันระหว่าง IoT หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ และระบบ AI จึงทำให้บริการดิจิทัลเซอร์วิส มีความครอบคลุมที่สุด ทั้งการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงาน ของระบบไฟฟ้าทั้งระบบ การคาดการณ์แนวโน้ม การเสื่อมสมรรถภาพของอุปกรณ์ พร้อมแจ้งเตือนความล้มเหลวของอุปกรณ์ล่วงหน้า ช่วยลดดาวน์ไทม์ ยืดอายุของอุปกรณ์ไฟฟ้า และแนะนำแผนการบำรุงรักษาได้อย่างเหมาะสม ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นายวราชัย เผยว่า “การทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ไม่จำเป็นต้องทำทีเดียว สามารถทำเท่าที่จำเป็นเพื่อที่ธุรกิจจะสามารถวัด ROI หรือผลตอบแทนจากการลงทุนได้ (Return on Investment) ด้วยเทคโนโลยี EcoStruxure ที่เป็นทั้งสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์ม ระบบเปิด ด้วยความสามารถทางด้าน IoT หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ และระบบ AI จึงทำให้บริการดิจิทัลเซอร์วิสของเรามีความครอบคลุมที่สุด สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง ในการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ช่วยสร้างความยืดหยุ่น และแก้ไขปัญหาของลูกค้า รวมถึงธุรกิจลูกค้าในอนาคตได้ นอกเหนือจากบริการภาคสนามแบบปกติ และทางชไนเดอร์ยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ในเรื่องของการวิเคราะห์ ที่จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ของระบบไฟฟ้าของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเรื่องของความปลอดภัย ทั้งในส่วนของสินทรัพย์ต่างๆและบุคคล ช่วยปรับเปลี่ยนจากการบำรุงรักษาตามเวลาที่กำหนด หรือแบบไทม์เบส ซึ่งต้องชัตดาวน์ระบบทั้งหมด ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจ มาเป็นคอนดิชั่นเบส ทำให้เกิดการลดต้นทุนด้านการซ่อมบำรุง และต้นทุนการสูญเสียในการหยุดสายการผลิตต่างๆ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงาน รวมถึงสร้างความยั่งยืนได้อีกด้วย”

สำหรับดิจิทัลเซอร์วิสของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นมิติใหม่แห่งการบริการ ด้านการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่บริการภาคสนามเพียงอย่างเดียว ยังมีการผนวกบริการดิจิทัล ด้วย EcoStruxure ที่ให้ศักยภาพด้าน IOT และใช้ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ มีการบริการที่โดดเด่นได้แก่ EcoStruxure Service Plans มิติใหม่แห่งการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า ด้วยบริการดิจิทัลตลอดอายุสัญญา ที่ให้บริการครอบคลุมถึงระบบ IoT ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค พร้อมทั้งจัดหาอุปกรณ์ และปรับปรุงอุปกรณ์ที่ลูกค้ามีอยู่ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ในการทรานส์ฟอร์มระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ด้วยซอฟต์แวร์ ระบบวิเคราะห์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกับดิจิทัล ช่วยลดความเสี่ยงจากกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ลดกิจกรรมด้านการบํารุงรักษา ลดค่าใช้จ่ายในการดําเนินการเอง ลดเวลาขัดข้องที่ไม่ได้วางแผนไว้ตลอดจนยืดอายุ การใช้งานของอุปกรณ์และสินทรัพย์

นอกจากนี้ EcoStruxure Asset Advisor หรือแอพพลิเคชั่นผู้ช่วย ในการมอนิเตอร์อุปกรณ์ไฟฟ้าช่วยเสนอแนวทางในการจ่ายไฟฟ้า และการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า ประเมินผลข้อมูลแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อ ใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อระบุภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น ให้ความสามารถในการคาดการณ์ และแก้ไขปัญหาก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการหยุดทำงานโดยไม่ได้วางแผน ความสูญเสียจากการปฏิบัติงาน และการบำรุงรักษาที่มีราคาแพง ซึ่งลูกค้าหรือผู้ใช้งานสามารถดำเนินการ ด้วยตนเองอีกทั้งยังสามารถใช้บริการ Service Bureau ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่คอยดูแลและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

โดยบริการดิจิทัลของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มี 2 แพคเกจหลัก ได้แก่

1.Preventive Services เป็นการบริการเชิงป้องกัน ดูเทรนด์ของระบบ สามารถตรวจสอบได้ ช่วยให้มองเห็นภาพรวมและสถานะ ของอุปกรณ์ผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในแบบเรียลไทม์ พร้อมการแจ้งเตือนอัจฉริยะ เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ นอกจากนี้ตลอดแพ็คเกจการใช้งานจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ คอยดูแลอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในระบบตลอด 24 ชม. พร้อมกับการรายงานให้แบบรายเดือน

2.Predictive Services เป็นการบริการเชิงคาดการณ์ ได้รับบริการพื้นฐานเหมือนกับ Preventive Services แต่จะมีความแตกต่าง อาทิ เช่น การรายงานข้อมูล ‘เชิงลึก’ แบบกำหนดเองได้ มีทีมงานช่วยดูแลและให้คำปรึกษาพร้อมการแจ้งเตือน ‘โดยตรง’ ตลอด 24 ชั่วโมง และการคาดการแนวโน้มการซ่อมบำรุงในส่วนต่างๆ ทำให้ลดการเกิดดาวน์ไทม์ หรือเหตุขัดข้องโดยไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าได้ โดยผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาได้ทันท่วงที หรือก่อนที่จะเกิดเหตุ พร้อมทั้งช่วยให้สามารถรู้ และแจ้งเตือน ช่วงเวลาในการซ่อมบำรุงของอุปกรณ์ต่างๆ ได้เมื่อถึงเวลา หรือใกล้เสื่อมประสิทธิภาพ และเมื่อใกล้หมดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์

Related Posts

Send this to a friend