BUSINESS

ผู้เสียหายจาก “Zipmex” ระงับบริการ รวมตัวปรึกษาตำรวจที่ศูนย์ราชการ ด้าน ก.ล.ต. เปิดช่องทางแจ้งข้อมูล ผู้ได้รับผลกระทบ

กรณีแพลตฟอร์ม ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล “Zipmex” ของบริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาท และคริปโตเคอร์เรนซี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.65 โดยอ้างถึงสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงความผันผวนของตลาด ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีหนังสือให้ Zipmex ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว พร้อมผลกระทบที่มีต่อลูกค้า โดยต้องคำนึงถึงการคุ้มครองประโยชน์ของลูกค้า ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และขอให้นำส่งข้อมูลต่อ ก.ล.ต. โดยเร็ว

นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Zipmex ประเทศไทย กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องระงับการเพิกถอนเงินบาท และคริปโตเคอร์เรนซี ว่า บริษัทประสบปัญหากับผลิตภัณฑ์กับตัว Zipup ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นลูกค้าประเทศไทยฝากสินทรัพย์ไว้ที่ Zipmex global สิงคโปร์ โดยที่คู่ค้าของ Zipmex global กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องอยู่ เพราะไปลงทุนในแพลตฟอร์มสินเชื่อคริปโต ได้แก่ Babel Finance และ Celsius ทำให้มีผลกระทบกับสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน Zipup โดยเฉพาะ บิทคอยน์ (btc), อีเธอเรียม (ETH), USDT และ USDC เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ และเงินบาทที่อยู่ใน Trade wallet นั้น ลูกค้ายังฝากยังถอนได้ปกติทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ตัวโปรดักต์ของ Zipup ยังไม่สามารถทำรายการได้

นายเอกลาภ กล่าวยืนยันว่า Trade wallet หรือ บัญชีที่ลูกค้าเทรดเอาไว้แค่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่อยู่ในนั้นยังปลอดภัยและฝากถอนได้ตามปกติ ซึ่ง Z Wallet ไม่มีเงินบาทอยู่ในนั้น เพราะฉะนั้นลูกค้าที่มีเงินบาทอยู่ใน Zipmex ก็ยังถอนได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน Zipmex ประเทศไทย จะทำก็ต้องทำการฟ้องร้องกับ Zipmex global และคู่ค้าเพื่อนำสินทรัพย์ดิจิทัลกลับคืนมาให้ลูกค้า โดยทางบริษัทมีความพร้อมดำเนินคดีความเต็มรูปแบบ เพื่อให้สินทรัพย์ดิจิทัลกลับคืนมาได้ เรื่องที่สำคัญที่สุดเงินของลูกค้า หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าเราต้องเอาคืนมาให้ได้

วานนี้ (24 ก.ค. 65) Zipmex ประกาศผ่านเฟซบุ๊กว่า บริษัทฯ​ ได้มีการเจรจาหารือกับนักลงทุนที่สนใจหลายท่าน และขณะนี้ได้มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก จนได้มีการตกลงทำข้อตกลง MOU เพื่อที่จะนำไปสู่ขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบสถานะ (Due Diligence) ในลำดับต่อมา ทางบริษัทจะยังคงดำเนินการเจรจาหารืออย่างต่อเนื่องและจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป

ล่าสุด ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ได้รับผลกระทบในกรณีดังกล่าวจำนวนมาก โดยช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีหนังสือให้บริษัทจัดให้มีระบบการให้บริการติดต่อลูกค้าและจัดการเรื่องร้องเรียนได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งต้องคำนึงถึงการคุ้มครองประโยชน์ของลูกค้า ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้นให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ก.ล.ต. จึงจัดทำแบบฟอร์ม เพื่อรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงได้ชัดเจนถูกต้อง โดยกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต. หรือที่ลิ้งก์ www.sec.or.th/zipmexform

ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุถึงกรณี บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด (Zipmex) ประกาศระงับการเพิกถอนเงินบาท และสินทรัพย์ดิจิทัล ว่า Zipmex ไม่ควรทำในการสั่งห้ามซื้อขาย เพราะอาจจะเข้าข่ายเอาเปรียบผู้บริโภค ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ เพราะเงินของผู้บริโภค การจะฝากจะถอน เป็นการลงทุน และตัดสินใจของผู้บริโภคเอง ขณะเดียวกันสำหรับราคาที่ลดลงจาก 800,000 บาท เหลือ 600,000 บาทต่อ BTC โดยเงินที่หายไป 200,000 บาทนั้น Zipmex ควรจะรับผิดชอบ

มีรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ค. 65) จะมีการรวมตัวจากนักลงทุนหรือผู้ที่เสียหายจากการระงับบริการของ Zipmex เข้าร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเตรียมเข้าพบ 3 บจ.ที่ได้ผลกระทบจากลงทุน

Related Posts

Send this to a friend