เชอร์วู้ด แตกไลน์ธุรกิจ รุกตลาดอาหาร-เครื่องดื่มสุขภาพ เตรียมเปิดตัว “SuperFight” ลุยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่รักสุขภาพ
บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC หนึ่งในบริษัทในเครือ TOA โชว์ผลประกอบการฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมประกาศแผนรุกตลาดยุคนิวนอร์มอลภายใต้ 3 แกนหลัก ” Safety – Wellness – Care ” เน้นจับมือศูนย์กระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยสินค้าที่หลากหลาย จัดเต็มกิจกรรมทางการตลาดในสินค้ากลุ่ม Household โดยเฉพาะสินค้าในหมวดกำจัดแมลงที่สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้เป็นอันดับ 2 ตั้งเป้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่ม เน้นประเทศเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV ตะวันออกกลาง จีน สหภาพยุโรป และ สหรัฐอเมริกา และประกาศพร้อมรุกตลาดผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เตรียมเปิดตัว “SuperFight” ลุยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพ หวังปั้นเป็นแบรนด์ระดับโลก
นายธนากร วัฒนวิจารณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย จำกัด มหาชน กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบกับการเติบโตของสินค้าอุปโภคบริโภคโดยทั่วไปทั้งประเทศก็ตาม แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ คือ สเปรย์กำจัดแมลง สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 4% โดยเฉพาะแบรนด์เชนไดร้ท์เติบโตได้มากกว่าตลาดที่ 5% สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่ 23% เป็นอันดับ 2 ของผลิตภัณฑ์สเปรย์กำจัดแมลงไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งในปีนี้ บริษัทมีแผนรุกตลาดที่เข้มข้นมากขึ้น ด้วยการรุกตลาดใน 3 แกนหลักได้แก่ Safety, Wellness และ Care ซึ่งนอกจากจะเน้นหนักกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อหวังกระตุ้นยอดในกลุ่มสินค้า Household ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าหลักของบริษัทฯแล้ว ยังเตรียมขยายธุรกิจไปยังในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มมากขึ้น ทั้งธุรกิจนมฮอกไกโด ธุรกิจถั่วและขนมมารูโจ้ รวมถึงธุรกิจเครื่องดื่มสุขภาพ ในชื่อแบรนด์ “SuperFight” ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ที่จะเดินหน้าอย่างเต็มตัวในช่วงเดือนเมษายนนี้ โดยมุ่งหวังในการส่งออกไปในตลาดโลก
“เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น ยังมีแผนขยายธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต ประกอบด้วย แผนเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด, ผลิตภัณฑ์นมจากพืช (Plant Based Milk), กลุ่มเครื่องดื่มเสริมอาหาร (Functional Drink) เพื่อสอดรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมามองหาสินค้า เพื่อสุขภาพกันมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนขยายการจัดจำหน่ายสู่ตลาดโลก โดยจะรุกประเทศในกลุ่ม CLMV ตะวันออกกลาง จีน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพื่อหาโอกาสใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
ขณะที่ธุรกิจนมฮอกไกโด ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจในรูปแบบมีหน้าร้านเป็นของตนเองนั้น บริษัทตั้งเป้าขยายเฟรนไชส์ผ่านการจับมือกับพันธมิตร ทั้งในรูปแบบคีออส และแบบร้านค้า โดยจะมีการเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมทำธุรกิจได้ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยจะเปิดอย่างน้อย 100 สาขาในปีนี้” นายธนากรย้ำ
นอกจากนี้ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ที่เชื่อว่าจะมาสร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในบ้านเราปีนี้ นายธนากร เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) ที่มีมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านบาท บริษัทมีแผนเปิดตัวธุรกิจใหม่เป็นเครื่องดื่มชูกำลังผสมสมุนไพรในชื่อ “SuperFight” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสกัด 8 ชนิด อาทิโสม, เห็ดหลินจือ, ถั่งเช่า, กระชายดำ, ตังกุย, ใบแปะก๊วย, โกจิเบอรี่ และน้ำผึ้ง ที่มาพร้อมกับคาเฟอีนจากชาเขียวธรรมชาติ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ เพราะให้ความสดชื่นในระหว่างวัน และดีต่อสุขภาพในระยะยาว นอกจากจะจำหน่ายในประเทศแล้ว ยังมีแผนส่งออกไปในตลาดโลกอีกด้วย
“แม้ว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะหดตัวลง 2% ในปีที่ผ่านมา แต่หากพิจารณาข้อมูลเชิงลึก จะพบว่า เครื่องดื่มชูกำลังผสมสมุนไพรเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงถึง 3% โดยมีสัดส่วนการขายจากร้านค้า โชวห่วยสูงสุดถึง 70% ตามมาด้วยช่องทางร้านสะดวกซื้อ 24% การสร้างการรับรู้และการทดลองดื่มเป็นสิ่งสำคัญ ทางบริษัทจึงได้เตรียมแผนการตลาดครบวงจรไว้รองรับ โดยมีศิลปินชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ และเตรียมส่งออกสู่ตลาดโลกซึ่งยังมีดีมานด์สินค้ากลุ่มนี้อีกมาก” ผู้บริหาร SWC กล่าว
