ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดภาคเช้าร่วงถ้วนหน้า สวนทางราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เกินระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2557
วันนี้ (24 ก.พ. 65) หลังรัสเซียเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบทั้งกระดาน ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดภาคเช้าที่ 26,161.46 จุด ลดลง 288.15 จุด หรือ -1.09% , ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดภาคเช้าที่ 22,925.60 จุด ดิ่งลง 734.68 จุด หรือ -3.11% ส่วนดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดภาคเช้าที่ 3,458.12 จุด ลดลง 31.03 จุด หรือ -0.89% ส่วนภาวะดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,679.47 จุด (ณ เวลา 10.50 น.) ปรับตัวลดลง 16.98 จุด หรือ -0.97% โดยดัชนีปรับตัวทำจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,678.84 จุด หรือดิ่งลงกว่า 17.61 จุด
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สะท้อนว่า มาจากความตึงเครียดภาวะสงครามรัสเซียและยูเครนในขณะนี้ พร้อมเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการลงทุน และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ที่ไม่อาจทราบได้ว่าจะจบลงแบบไหน หรือส่งผลกระทบมากแค่ไหน
นอกจากราคาหุ้น ราคาบิทคอยน์ก็ปรับลงเช่นกัน โดยปรับลง 6.82% ที่ 35,186.7 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,141,826.01 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 28.20 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลอัพเดต เมื่อเวลา11.35 น. วันนี้
สถานการณ์ที่ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 4.73% แตะที่ 96.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ ทะยานขึ้น 4.69% แตะที่ 101.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยทะยานเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2557
