BUSINESS

‘แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป’ เผย ยอดออเดอร์ไอศกรีมผลไม้ในต่างประเทศ พุ่ง 90 %

เตรียม ทุ่ม 60 ล้าน ขยายโรงงานเพิ่มกำลังผลิต พร้อม คุยเกษตรกรเตรียมผลไม้เข้าไลน์ผลิตกว่า 1 หมื่นตัน

นายฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภายหลังความสำเร็จการเปิดตัวไอศกรีมในลูกผลไม้ปี 65 ที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 330 ล้านบาท จากที่ตั้งเป้าไว้ 250 ล้านบาท จากปัจจัยของตลาด การบริโภค และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวหลังโควิดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งนอกจากคู่ค้าเดิมจากประเทศเกาหลีที่มีการออเดอร์เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ อาทิ ในฝั่งยุโรป ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ซาอุดิอาระเบีย และจีน ซึ่งต่างมีการสั่งสินค้า โดยเฉพาะไอศกรีมในกลุ่มไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ที่มีสัดส่วนสูงถึง 90% นำไปจำหน่ายทั้งในร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ โรงแรมและซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนั้นยังเกิดจากเอกลักษณ์ของรสชาติความอร่อยของผลไม้ไทย ที่เมื่อนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเฉพาะของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป

จากการขยายตลาดเพิ่มในหลายประเทศและคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทางบริษัทฯ มีการขยายโรงงานที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยใช้เงินลงทุนครั้งนี้กว่า 60 ล้านบาท ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมเดือนละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์ เป็น 80 ตู้คอนเทนเนอร์ (1 ตู้คอนเทนเนอร์ ประมาณ 25,000 ชิ้น) คาดว่าเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าและการขยายตลาดในอนาคต

นายฐานพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจัยที่ต้องมีการวางแผนอย่างดี คือ ผลไม้ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการพูดคุยและประกันราคาให้กับเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรในการผลิตผลไม้คุณภาพเพื่อป้อนเข้าสู่โรงงานแล้ว ในปีนี้ได้เตรียมสต๊อกผลไม้เพื่อเข้าไลน์ผลิตไว้สูงถึง 1 หมื่นตัน โดยผลไม้หลักที่ต้องการเป็นสับปะรด 95% นอกจากนั้นจะเป็นเสาวรส แตงโม มะพร้าว มะม่วง และแก้วมังกร ตามลำดับ ซึ่งแผนงานดังกล่าวนอกจากจะเป็นผลดีกับโรงงานที่จะไม่ขาดวัตถุดิบสำคัญแล้ว ยังส่งผลดีและเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง ไม่เกิดภาวะผลไม้ล้นตลาด หรือผลผลิตถูกกดราคา

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มไอศกรีมซอร์เบในลูกผลไม้ กลุ่มไอศกรีมผลไม้แท่ง และกลุ่มโมจิไอศกรีม โดยมีจุดเด่นของผลิตภัณฑ์อยู่ที่การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการพัฒนาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลไม้ไทยให้เป็นไอศกรีมซอร์เบผลไม้แท้ รสชาติดี ที่สามารถบรรจุลงในผลไม้สดได้เก็บได้นานถึง 2 ปี ในอุณหภูมิ -25 องศา ปลอดภัยและปลอดเชื้อ ทำให้สามารถผ่านมาตรฐานอาหารได้รับอนุญาตให้นำเข้าและจัดจำหน่ายได้ในหลายประเทศ

นายฐานพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ปีนี้ทางบริษัทฯจะนำโมจิไอศกรีม กลับมาทำตลาดอย่างจริงจังมากขึ้น หลังจากการศึกษาและทดลองตลาด โดยนำเสนอลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มยุโรปพบว่ามีความสนใจโมจิไอศกรีม เป็นอย่างมาก ขณะนี้เริ่มส่งออกและวางจำหน่ายไปแล้วในบางประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลี จีน

นอกจากนี้ ในปีนี้สำหรับการวางแผนการตลาด ยังคงเน้นการขยายตลาดเพิ่มในประเทศฝั่งตะวันออกกลาง เช่น ยุโรป และอเมริกา โดยส่งทีมการตลาดลงพื้นที่เพื่อศึกษา และเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ตรงกับรสนิยม และความชอบของคนแต่ละประเทศ นอกจากนี้จะมีการพัฒนาตลาดที่ประเทศเกาหลี โดยจากเปิดตลาดในกลุ่มใหม่ B2C ที่เป็นรีเทล ซุปเปอร์มาร์เก็ต อาทิ Costco, GS25, 7-ELEVEN มากขึ้น รวมถึงร่วมจัดแสดงสินค้าในงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ อย่าง THAIFEX – Anuga Asia 2023 ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มประเทศใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น และปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ถึง มูลค่า 500 ล้านบาท

Related Posts

Send this to a friend