สภาพัฒน์ เผย โควิดทำไตรมาส 3 มีคนไทยว่างงานกว่า 8.7 แสนคน
(22 พ.ย. 64) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยสถานการณ์การว่างงานไตรมาส 3 ของปี 2564 เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่มีการระบาดของโควิด โดยมีผู้ว่างงานถึง 8.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 2.25% สูงกว่าช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ แต่ยังน้อยกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 โดยพบว่ากลุ่มผู้ว่างงานสูงสุด 3.63% มีการศึกษาในระดับอุดมศึกษา รองลงมา 3.16% เป็นระดับ ปวส.
นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ว่างงานส่วนใหญ่จบในสาขาทั่วไป บริหารธุรกิจ และการตลาด จึงมีแนวโน้มประสบปัญหาการว่างงานยาวนานขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวจำกัด เมื่อพิจารณาตามช่วงอายุ แรงงานที่มีอายุ 15-19 ปี มีอัตราการว่างงานสูงสุด 9.74% รองลงมาคืออายุ 20-24 ปี มีอัตราการว่างงานที่ 8.35% สะท้อนว่าสถานการโควิด ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้นได้ จนต้องเลิกจ้างแรงงาน ส่วนเด็กจบใหม่ ยังไม่มีตำแหน่งงานรองรับ เพราะผู้ประกอบการต้องรอดูสถานการณ์ก่อน
สำหรับประเด็นที่ยังต้องติดตามในระยะถัดไป คือ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะมีผลต่อการจ้างงานในภาคการท่องเที่ยว และการฟื้นฟูเศรษฐกิจ , ผลกระทบจากอุทกภัยต่อแรงงานภาคเกษตรและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของรัฐ , ภาระค่าครองชีพที่อาจเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมัน , การจัดการปัญหาการสูญเสียทักษะจากการว่างงานเป็นเวลานาน และการยกระดับทักษะให้กับแรงงาน , การส่งเสริมให้แรงงานที่ประกอบอาชีพอิสระ ที่ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อรับการช่วยเหลือเยียวยาให้เป็นผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่อง
