BUSINESS

ทรูมันนี่ เผย 4 ปัจจัย ส่งเสริมมธุรกิจแอปการเงิน ครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม

ทรูมันนี่ เผย 4 ปัจจัย ส่งเสริมมธุรกิจแอปการเงินครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ตอบโจทย์การเงินยุคใหม่ในโลกดิจิทัล

ทรูมันนี่ ผู้ให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล เผย 4 ปัจจัยสำคัญสำหรับแอปการเงินครบวงจร ที่ช่วยส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่คุ้นเคยกับความสะดวกของยุคดิจิทัล เพิ่มการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ให้ครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่ม

การสร้างแอปการเงินครบวงจร จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึง 4 ปัจจัยสำคัญ ที่สามารถส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินให้แก่บุคคลทุกกลุ่มได้อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย

1.เสริมสร้างทักษะความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ควบคู่กับทักษะความเข้าใจและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) จากงานวิจัยของสภาเศรษฐกิจโลก ในปี พ.ศ.2565 พบว่า กว่า 24% ของมิลเลนเนียล (อายุตั้งแต่ 16-35 ปี) ไม่เคยเรียนรู้เรื่องการจัดการทางการเงิน หรือการลงทุนมาก่อน เนื่องจากมองว่าการเงินเป็นเรื่องยาก ผู้ให้บริการจึงควรทำให้การใช้งานแอปการเงินเป็นเรื่องง่าย ออกแบบแอปที่สามารถเพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้แก่ผู้ใช้งาน

2.จาก Micro Lending สู่ Micro Investing ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริการสินเชื่อได้รับการพัฒนาผ่านแอปการเงินครบวงจร เช่น สินเชื่อดิจิทัล บริการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง เป็นต้น ขยายขอบเขตบริการทางการเงินให้สามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อได้ผ่านแอปการเงินครบวงจร นอกจากนี้ บริการด้านการลงทุนเป็นอีกหนึ่งบริการสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางการเงิน

3.ขยายบริการข้ามพรมแดน (Cross-Border) ไปสู่กลุ่มแรงงานต่างชาติ สถิติในไตรมาสที่ 1/2566 ของกระทรวงแรงงาน พบว่ามีแรงงานต่างชาติในไทย เป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะแรงงานจากพม่าและกัมพูชา ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ไม่มีบัญชีธนาคาร (Unbanked) รวมถึงกลุ่มที่ยังพบอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Underbanked) โดยพวกเขามีความต้องการที่ส่งเงินให้ครอบครัวในภูมิลำเนา จ่ายบิลค่าใช้จ่ายในต่างประเทศ ซึ่งการเปิดให้แรงงานสามารถเปิดบัญชีได้ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างการเข้าถึงบริการทางเงิน รวมถึงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

4.ยกระดับเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อเสริมเกราะความปลอดภัย ในปัจจุบันมิจฉาชีพออนไลน์กำลังระบาดอย่างหนัก สถาบันการเงินและผู้ให้บริการแอปการเงินครบวงจรจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องผู้ใช้บริการได้อย่างรัดกุมยิ่งขึ้น โดยประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาทำงานร่วมกับเทคโนโลยีวิศวกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ รวบรวม จำแนก และจดจำ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้บริการ และตรวจสอบตัวตนผู้ใช้งาน เพื่อตรวจจับการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงหยุดการทำธุรกรรมที่มีความผิดปกติในทันที โดยอิงจากประวัติการทำรายการย้อนหลังที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี การเดินหน้าเสริมสร้างอีโคซิสเต็มส์ของบริการด้านการเงินให้ครอบคลุมผู้คนทุกกลุ่ม ยังคงต้องคำนึงถึงการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่เหมาะสม ให้สามารถตอบโจทย์และทลายข้อจำกัดทางด้านการเงินสำหรับผู้บริโภค ที่นอกจากการเข้าถึงแล้วจะยังช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ด้านการเงินที่ดีให้แก่ผู้คน

Related Posts

Send this to a friend