วิกฤต ‘เอเวอร์แกรนด์’ ลามทั่วโลก นักลงทุนแห่เทขายหุ้นร่วงระนาว ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันนี้ (21 ก.ย.64) ว่านักลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก เริ่มวิตกกับสถานการณ์วิกฤตหนี้ของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์แดนมังกร หลังส่อเค้าว่า เอเวอร์แกรนด์อาจจำเป็นต้องผิดนัดชำระหนี้ หากเป็นจริง จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบการเงินของจีน และอาจสะเทือนถึงเศรษฐกิจโลก จึงเกิดปรากฏการณ์เทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง

เอเวอร์แกรนด์ มีพันธะหนี้ทั้งจากการกู้โดยตรงจากธนาคาร การออกพันธบัตร และหุ้นกู้ รวมมูลค่า 305,000 ล้านดอลลาร์ มีกำหนดต้องชำระดอกเบี้ยพันธบัตรของบริษัทที่มีกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคม 2022 ในวันที่ 23 กันยายนนี้ จำนวน 83.5 ล้านดอลลาร์ และมีกำหนดชำระดอกเบี้ยพันธบัตรที่ถึงกำหนดไถ่ถอนในเดือนมีนาคม 2024 อีก 47.5 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 29 กันยายน

หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระ หรือทำความตกลงเกี่ยวกับดอกเบี้ยพันธบัตรทั้ง 2 ก้อนนี้ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่กำหนดชำระดอกเบี้ย จะถือว่าเอเวอร์แกรนด์ผิดนัดชำระหนี้ทันที

บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ดัชนีหุ้นนิกเกอิของญี่ปุ่น ร่วงลง 2.0 เปอร์เซ็นต์ , ดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกง ร่วงลง 1.08 เปอร์เซ็นต์ , ดัชนีรวมเอ็มเอสซีไอในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ลดลง 0.2 เปอร์เซ็นต์ , ดัชนีรวมทั่วโลก เอ็มเอสซีไอ เอซีดับเบิลยูไอ ลดลง 0.13 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เมื่อวานนี้ (20ก.ย.64) ดัชนีชี้วัดสภาวะตลาดหุ้น 50 ตลาดของโลก ร่วงลงถึง 1.63 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการร่วงหนักที่สุดในรอบ 2 เดือน

ส่วนหุ้นของบริษัทเอเวอร์แกรนด์ ก็ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน โดยเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.64) ลงถึง 19 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางการดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาชำระหนี้ให้ทันตามกำหนด โดยยังคงไร้แววรัฐบาลจีนเข้าให้ความช่วยเหลือ