สศก.เผย ราคาหอมหัวใหญ่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น
สศก.เผย ราคาหอมหัวใหญ่เริ่มปรับตัวสูงขึ้น พร้อมลงพื้นที่เจาะแหล่งผลิตหลักใน 2 อำเภอของเชียงใหม่ ห่วง พื้นที่ปลูกลดลง
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยสถานการณ์หอมหัวใหญ่ ปีเพาะปลูก 2564/65 (ข้อมูลพยากรณ์ ณ กุมภาพันธ์ 2565) คาดว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกหอมหัวใหญ่ รวมประมาณ 8,504 ไร่ ลดลงจากปีเพาะปลูก 2563/64 ที่มีพื้นที่ปลูก 8,798 ไร่ (ลดลงร้อยละ 3.34) ให้ผลผลิต 34,647 ตัน ลดลงจากปีเพาะปลูก 2563/64 ที่ให้ผลผลิต 34,797 ตัน (ลดลง ร้อยละ 0.43) เนื่องจากเกษตรกรปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ราคาดีกว่าแทน อาทิ หอมแขก ข้าวโพดหวาน เป็นต้น
สำหรับแหล่งปลูกสำคัญอันดับ 1 ของประเทศ คือ จ.เชียงใหม่ (ผลผลิตร้อยละ 74 ของประเทศ) รองลงมาคือเชียงราย และนครสวรรค์ โดยผลผลิตส่วนใหญ่ทยอยออกตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เดือนเมษายน ออกมากสุดในเดือนมีนาคม ขณะที่ภาพรวมราคาหอมหัวใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ เริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงต้นปี เนื่องจากผลผลิตลดลง พ่อค้าในพื้นที่เข้ามารับซื้อผลผลิตมากขึ้น และการส่งออกไปต่างประเทศโดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นส่งออกได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นางกาญจนา แดงรุ่งโรจน์ รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตรได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีแหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่ อำเภอแม่วาง และอำเภอฝาง ระหว่างวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ทั้งสองอำเภอมีพื้นที่ปลูกและผลผลิตลดลง เนื่องจากในช่วงเพาะต้นกล้า ได้เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ต้นกล้าได้รับความเสียหายไปบางส่วน ประกอบกับสภาพอากาศที่แปรปรวน อากาศหนาวเย็นไม่ยาวนาน ส่งผลต่อคุณภาพของหอมหัวใหญ่
สำหรับผลผลิตและราคาที่เกษตรกรขายได้ พบว่า อำเภอแม่วาง ณ สิ้นเดือนมีนาคม จะเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วเสร็จทั้งหมด เกษตรกรที่มีผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี จะมีพ่อค้าในท้องถิ่นมารับซื้อผลผลิตแบบเหมาสวน โดยให้ราคาไร่ละ 42,000 – 45,000 บาท โดยราคาหอมหัวใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ (ณ 10 มีนาคม 2565) เบอร์ 0 , 1 เฉลี่ยที่กิโลกรัมละ 11 บาท อำเภอฝาง เกษตรกรเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตไปบางส่วนประมาณร้อยละ 40 โดยคาดว่าจะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จทั้งหมดภายในต้นเดือนเมษายน ราคาหอมหัวใหญ่ที่เกษตรกรขายได้ (10 มีนาคม 2565) เบอร์ 0 , 1 อยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท
สำหรับผลผลิตหอมหัวใหญ่ของ อ.แม่วาง ถือเป็นแหล่งผลิตสำคัญที่ส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก โดยช่วงเดือนมกราคม 2565 ไทยส่งออกหอมหัวใหญ่ไปญี่ปุ่นแล้ว 121,913 กิโลกรัม มูลค่า 3.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ส่งออกปริมาณ 92,069 กิโลกรัม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32) มูลค่า 2.42 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 40)