BUSINESS

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสย่านสีลม ตอบโจทย์คนเมือง

ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มุ่งตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคหลังยุคโควิด โชว์โครงการรูปแบบมิกซ์ยูส เพื่อเข้ามาช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้คนในเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นฟูหลังวิกฤติโควิด เนื่องจากความต้องการ ที่อยู่อาศัยใกล้ใจกลางเมือง และความต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับศูนย์การค้า ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้น และครอบคลุมครบทุกมิติ สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่ โครงการรูปแบบมิกซ์ยูส คือโซลูชั่นที่ผสมผสานทั้ง ที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ อาคารสำนักงาน โรงแรม 5 ดาว โรงภาพยนตร์ พื้นที่จัดกิจกรรม แหล่งการศึกษาและการดูแลเด็ก ร้านค้าและบริการเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบกับความได้เปรียบ ด้านทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จึงทำให้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย พร้อมกันนี้ได้เจาะลึกแนวโน้ม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2566 เกี่ยวกับโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส ที่ดึงดูดการลงทุนและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล

สำหรับโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนพัฒนา โครงการรูปแบบมิกซ์ยูสครั้งประวัติศาสตร์ บนพื้นที่หัวมุมถนนสีลม-พระราม 4 ซึ่งศักยภาพของทำเลดังกล่าว ได้พัฒนาไปมากจากเมื่อครั้งสมัยโรงแรมดุสิตธานีเดิม ยังอยู่เป็นแลนด์มาร์ค โดยราคาที่ดินย่านสีลมที่ได้รับการประเมินล่าสุด ปี 2565 จากกรมธนารักษ์ ระบุตัวเลขสูงสุดคือ 1,000,000 บาทต่อตารางวา หากคิดเฉพาะราคาที่ดินที่กำลังพัฒนาโครงการอยู่ตอนนี้ ราคาที่ดินจะสูงกว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบ ทางโครงการฯ จึงได้สรรค์สร้างโครงการมิกซ์ยูส ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย

ทั้งนี้แนวคิด Urban re-development จึงถูกนำมาใช้กับการเปลี่ยนผ่านของดุสิตธานี ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพ ที่ได้ชื่อว่ามีราคาสูงที่สุดของกรุงเทพฯ และยังเป็นการพลิกโฉมศูนย์กลางธุรกิจถนนสีลม ให้มีความโดดเด่น เป็นไอคอนิคของกรุงเทพมหานคร โดยโครงการฯ จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ,โครงการที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส,อาคารสำนักงาน เซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซส และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค จากองค์ประกอบเหล่านี้ โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะกลายเป็นอสังหาริมทรัพย์ ระดับเมกะโปรเจกต์ที่สามารถดึงดูดการลงทุน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มหาศาล

และดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค จะไม่อาจเป็นเซ็นทรัลพาร์คได้สมชื่อ หากขาดจุดเด่นสำคัญ คือ การออกแบบพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ เรียกว่ารูฟพาร์ค (Roof Park) สวนสาธารณะลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ภายในโครงการ ถูกโอบล้อมด้วยกลุ่มอาคารทั้งสี่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดเด่นสำคัญ ของโครงการที่แสดงให้เห็นการใช้ประโยชน์ที่ดินสูงสุด เพื่อสาธารณประโยชน์ และเอื้อต่อไลฟ์สไตล์ใหม่ๆของคนเมือง ในแง่การออกแบบพื้นที่ให้เอื้ออำนวยต่อชุมชน และสร้างการเชื่อมต่อระหว่างโครงการและย่านสีลม-พระราม4

ส่วนแนวโน้มการเติบโตของ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2566 กำลังเฟื่องฟูจากเหตุผลหลายประการ เช่น นโยบายของรัฐฯ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวในปี 2566 ทำเลที่ตั้งเชิงกลยุทธ์ ราคาที่สมเหตุสมผล และการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เป็นต้น องค์ประกอบเหล่านี้ได้สร้างสภาพแวดล้อม ที่เอื้อต่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุน ให้ริเริ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยในประเทศมากขึ้น อีกทั้งการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ยังเข้ามาช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต ของผู้คนในเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นฟู หลังวิกฤติโควิด

ด้าน นายสมเกียรติ โล่ห์จินดาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) หนึ่งในสถาปนิกที่ร่วมพัฒนา และออกแบบโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค กล่าวว่า “จุดสำคัญที่คล้ายกันของย่านศูนย์กลางธุรกิจในกรุงเทพฯ หรือ CBD ที่เป็นทำเลศักยภาพย่านธุรกิจ คือ ต้องมีการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าบีทีเอสและเอ็มอาร์ที และอยู่ตรงหัวมุมถนน อย่างเช่น ทำเลแยกอโศก-สุขุมวิท และแยกสีลม-พระรามสี่ ตรงนี้ผมถือว่าเป็น Traffic ที่ชี้ให้เห็นศักยภาพการเติบโต และขยายตัวของเมืองและธุรกิจได้ดี แต่ความพิเศษของหัวมุมถนนสีลม ซึ่งเป็นทำเลของดุสิตธานี คือการมีสิ่งที่เรียกว่า Emotion จากมุมมองติดธรรมชาติของสวนลุมพินี ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับทำเลพอดิบพอดี และเราทุกคนต่างทราบว่าไม่มีทำเล CBD ไหนที่มีครบทั้ง Traffic และ Emotion เหมือนสีลม”

Related Posts

Send this to a friend