BUSINESS

Gourmet & Cuisine Young Chef 2023 การแข่งขันทำอาหารระดับอุดมศึกษา ปั้นยังเชฟรุ่นที่ 2

นิตยสารกูร์เมท์ แอนด์ ควีซีน จับมือพาร์ทเนอร์ชั้นนำในธุรกิจอาหารเมืองไทย จัดงานแถลงข่าวการแข่งขัน “Gourmet & Cuisine Young Chef 2023” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อปั้นยังเชฟรุ่นใหม่ป้อนอุตสาหกรรมอาหาร ปลุกกระแส Soft Power รังสรรค์เมนูสุดพรีเมียมด้วยวัตถุดิบ และเครื่องครัวคุณภาพระดับโลก ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ บริเวณโซน Central Court ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับการแข่งขัน “Gourmet & Cuisine Young Chef” เป็นการแข่งขันทำอาหารระดับอุดมศึกษา จัดโดยนิตยสารกูร์เมท์ แอนด์ ควีซีน เพื่อเฟ้นหาเชฟไทยในกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่มาประดับวงการอาหาร ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท สอดคล้องกับกระแสการเติบโตของตลาดธุรกิจอาหาร ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภริตา วิริยะรังสฤษฎ์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Gourmet & Cuisine เปิดเผยว่า “จากการแข่งขันในปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นศักยภาพของเยาวชนรุ่นใหม่ ที่เกินความคาดหมาย ในปีนี้จึงสามารถออกโจทย์ที่มีความชาเลนจ์มากขึ้น ในส่วนของน้องๆ ที่ส่งผลงานเข้าประกวดในปีนี้ก็จะได้เห็นผลงานตัวอย่างจากรุ่นพี่ ทำให้สามารถศึกษาแนวทางโจทย์ ค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ และมีการเตรียมตัวที่พร้อมมากขึ้น สำหรับคอนเซ็ปต์การแข่งขันในปีนี้คือ “Fusion Borderless” ให้อิสระในการผสมผสานแนวคิด จากอาหารนานาชาติ โดยเน้นที่การใช้วัตถุดิบและอุปกรณ์ตามโจทย์อย่างโดดเด่นและสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้น้องๆนำเอาประสบการณ์ มาใช้ได้อย่างเต็มที่”

ด้าน กฤตนัน สนธิจิรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะซิกเนเจอร์ แบรนด์ จำกัด เปิดเผยว่า “สินค้าของ Tecnogas เป็นแบรนด์ที่ได้รับมาตรฐานจากอิตาลี มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 50 ปี ในประเทศไทยเองทำตลาดมามากกว่า 30 ปี จึงได้รับความไว้วางใจ จากคนไทยทุกรุ่นทุกวัย ในการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef 2023 ทาง Tecnogas มีความตั้งใจให้สินค้าของแบรนด์ซึ่งมีชื่อเสียงด้านมาตรฐาน ความทนทาน ตอบโจทย์การทำอาหารทุกประเภท ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้น้องๆสร้างสรรค์อาหาร และยังตั้งใจที่จะร่วมพัฒนา Ecosystem ของเชฟไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เพื่อพัฒนาวงการอาหารของไทยต่อไป”

ขณะที่ จิรชาญ คัมภิรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการตลาด บริษัท ข้าวมาบุญครอง จำกัด เปิดเผยว่า “ผลิตภัณฑ์ข้าวมาบุญครอง เป็นแบรนด์สุขภาพอันดับ 1 ที่มีหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์วงการเชฟ และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค โจทย์ในการแข่งขันครั้งนี้ คือผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องหอมใหม่ 100% ถือเป็นความท้าทายให้น้องๆ ได้ประลองฝีมือรังสรรค์ข้าว เพื่อสุขภาพให้น่าสนใจ ผ่านไอเดียความครีเอตของคนรุ่นใหม่ เพื่อร่วมรณรงค์ให้ผู้บริโภค หันมากินข้าวที่ดีต่อสุขภาพและอร่อยมากยิ่งขึ้น พร้อมร่วมเป็นกำลังใจให้น้องๆ มาช่วยกันสร้างสีสันใหม่ๆ ให้กับวงการอาหารไทยและเติบโตไปด้วยกัน”

ยี่หร่าน ศันสนีย์ แกทแทนบี้ เดวี่ส์ กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า “แซลมอน” ถูกเลือกเป็นวัตถุดิบหลัก สำหรับการแข่งขันในปีนี้ จากการพิจารณาในทุกปัจจัยอย่างถี่ถ้วน อาทิ รสชาติ โภชนาการ ความนิยมจากเชฟและผู้บริโภค แซลมอนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านรสชาติที่โดดเด่น ปรุงได้ด้วยเทคนิคและการผสมผสานรสชาติที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และแสดงทักษะการทำอาหารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดี ของกรดไขมันโอเมกา-3 และโปรตีนคุณภาพสูง ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับประสบการณ์ ในการทดลองปรุงอาหาร จากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมแบบเดียวกับ ที่โรงแรมระดับห้าดาว หรือร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เลือกใช้”

พิสมัย ตันหยง รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดภายในประเทศ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ศรีตรังโกลฟส์” เล็งเห็นถึงศักยภาพและความสามารถ ของเด็กไทยจึงอยากส่งเสริมทุกความตั้งใจของน้องๆให้มากที่สุด ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง ที่มีมาตรฐานด้านอาหารรองรับ และได้รับความไว้วางใจในระดับสากล หลักๆคือมาตรฐาน Food Grade ซึ่งมีบทบาทอย่างมาก ต่อวงการอาหารในเรื่องของ การเสริมสร้างสุขอนามัย มาใช้เป็นส่วนสำคัญในการแข่งขัน ทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ ให้กับผู้เข้าแข่งขัน รวมถึงทำให้อาหารทุกจานปราศจากสิ่งปนเปื้อน กินได้อย่างอิ่มอร่อย มั่นใจไร้กังวล”

รัตนาวดี หวังพิทักษ์ ผู้ดูแลสินค้าแบรนด์ครีมโอ กลุ่มสินค้าบิสกิต บริษัท ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การนำขนมพร้อมรับประทาน มาสร้างสรรค์เป็นเมนูของหวานจานใหม่ แสดงให้เห็นถึง Innovation และความเหนือชั้น เมื่อแบรนด์คุกกี้ครีมโอที่ขึ้นชื่อ ในเรื่องของช็อกโกแลตคุกกี้สอดไส้ครีมทั้งรสชาติวานิลลาและรสช็อกโกแลต และอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน ได้ถูกนำมารังสรรค์เป็นเมนูขนมหวาน ในรูปแบบใหม่โดยน้องๆยังเชฟ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมรสชาติของครีมโอให้โดดเด่นยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการจุดประกายการต่อยอด นำครีมโอมาเป็นวัตถุดิบรังสรรค์เมนูของหวานอื่นๆได้อีกมากมาย”

ปริม จิตจรุงพร ประธานบอร์ดบริหาร Allied Metals จาก The Food School Bangkok เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นสถานที่ดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เป้าหมายของ The Food School Bangkok คือการสร้างเชฟมืออาชีพ ให้กับวงการอาหาร ทางโรงเรียนได้รับเกียรติจากสถาบันสอนทำอาหารระดับโลก 3 แห่งมาสอน คือ Tsuji จากประเทศญี่ปุ่น Alma จากประเทศอิตาลี และวิทยาลัยดุสิตธานี การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นเวทีหนึ่ง ในการค้นหาเชฟที่มีพรสวรรค์ และสานฝันให้กับเยาวชน ที่มีใจรักในการทำอาหาร ทำให้เรามีเชฟรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่วงการมากขึ้น เป็นการต่อยอด Soft Power ของประเทศไทย The Food School Bangkok มีความพร้อมทั้งในส่วนของเครื่องครัว และอุปกรณ์ครัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ ที่เชฟมืออาชีพใช้ เชื่อว่าน้องๆ ทั้ง 10 ทีมจะได้รับประสบการณ์การแข่งขัน ทำอาหารที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน”

พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยโฉมหน้าทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะไปแข่งขันชิงชัยกันต่อในรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ณ The Food School Bangkok ทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบได้แก่ 1.ทีม Burnt มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 2.ทีม HYBRID วิทยาลัยดุสิตธานี 3.ทีม Origin วิทยาลัยดุสิตธานี 4.ทีม PIM Power Team สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ 5.ทีม Sulada วิทยาลัยดุสิตธานี 6.ทีม The Gardener มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา 7.ทีมข้าวหน้าเป็ด วิทยาลัยดุสิตธานี 8.ทีมคาปีบาโจ้ วิทยาลัยดุสิตธานี ศูนย์การศึกษาเมืองพัทยา 9.ทีมดาร์กแคนดี้ วิทยาลัยดุสิตธานี 10.ทีมฮาครื่นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat