BUSINESS

ลอรีอัล ประเทศไทย ผนึก แบรนด์ความงาม ยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัล ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech

วันนี้ (9 มิ.ย.65) ลอรีอัล ประเทศไทย จัดแถลงข่าว ทิศทางธุรกิจหลังโควิด-19 และข้อมูลอุตสาหกรรมความงามในปี 2564 โดย อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา กล่าวว่า ปี 2564 ลอรีอัล ประเทศไทย ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 และดิจิทัลดิสรัปชั่น โดยเฉพาะแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่เติบโตขึ้น 2 เท่าในเวลา 3 ปี

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายออฟไลน์ก็เติบโตขึ้นจากนวัตกรรม Beauty Tech ที่มีกว่า 12 นวัตกรรม ทั้งด้านผิวหนัง เส้นผม และเมคอัพ ส่วนยอดขายในตลาดอีคอมเมิร์ซก็ขึ้นเป็นอันดับ 1 เช่นกัน โดยปัจจุบันลอรีอัล ประเทศไทย มีช่องทางโซเชียลมิเดียกว่า 59 ช่องทาง จาก 15 แบรนด์ชั้นนำ

แผนธุรกิจในปี 2565 ลอรีอัลมุ่งนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการผ่านการค้นคว้าวิจัย และการพัฒนานวัตกรรม พร้อมยกระดับเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกับหลายแบรนด์ อาทิ เซราวี (CeraVe) เคเรสตาส (Kerastase) ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล (L’Oreal Professional) อีฟต์ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent) และ คีลส์ (Kiehl’s) เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech อย่างต่อเนื่อง

อินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา

นอกจากนี้ยังจะดันงบประมาณสำหรับพัฒนานวัตกรรม 3 ด้าน ได้แก่ 1.รังสรรค์สูตรผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี AI 2.ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม 3.ลงทุนในการสร้างพันธมิตรด้าน data ในบริษัทแนวหน้า เพื่อช่วยกำหนดอนาคดอุตสาหกรรมความงาม ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคทั่วโลก เช่น การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับเวริลี (Verity) บริษัทด้านสุขภาพในเครืออัลฟาเบท เพื่ออธิบายกลไกการร่วงโรยของผิวและเส้นผม

อินเนส ยังได้เปิดเผยภาพรวมอุตสาหกรรมความงามในไทย ปี 2564 ว่ามีมูลค่าสูงถึง 1.447 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์ผิว 57.5% ผลิตภัณฑ์เส้นผม 21% เครื่องสำอาง 15.5% และน้ำหอมอีก 5% โดยตลาดความงามในไทยยังเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ ทั้งนี้คาดว่าในปี 2566 อุตสาหกรรมความงามจะเติบโตขึ้น 4-5%

อรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ. ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการองค์กรและสื่อสารสัมพันธ์. บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด

Related Posts

Send this to a friend