BUSINESS

กฟภ.เซ็นต์ MOU พัฒนาโครงการนำร่องพัฒนาระบบไฟฟ้า อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

นายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลงนามสัญญา “แผ่นงานนำร่องพัฒนาระบบไฟฟ้า ด้วยระบบกักเก็บพลังงานเชื่อมต่อในระบบจำหน่าย” ร่วมกับ เอเออี เอ็นจิเนียริ่ง (ไทยแลนด์) และ โคลท์ เทคนิคัล เพื่อพัฒนาโครงการนำร่องพัฒนาระบบไฟฟ้า เพื่อกักเก็บพลังงานแก้ปัญหาพื้นที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ กว่า 22,124 ครัวเรือน เพื่อรับมือเหตุการณ์ไฟฟ้าขัดข้องด้วยตัวเลข 49.06 ชั่วโมง ต่อปี, 96.3 ครั้ง ต่อปี จากการเก็บข้อมูลระบบไฟฟ้าขัดข้อง ระหว่าง 2561-2564 โดยเหตุการณ์กว่า 90% ไฟฟ้าจะดับเฉลี่ยไม่เกิน 60 นาที ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชุมชน เนื่องจากเป็นพื้นที่สูง

นายภาณุมาศ กล่าวว่า “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย มีภารกิจหลัก ในการจัดหาให้บริการพลังงานไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจทั้งด้านคุณภาพและบริการ โดยมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นั้นได้มุ่งมั่นให้บริการพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพเชื่อถือได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน อีกทั้งนำเทคโนโลยีด้านระบบกักเก็บพลังงาน มาใช้ในโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาระบบไฟฟ้า ดังนั้นสายงานวางแผนและพัฒนาระบบไฟฟ้า จึงได้พิจารณานำระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) มานำร่องแก้ปัญหาระบบไฟฟ้าในพื้นที่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่

เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศล้อมรอบด้วยเนินเขา และภูเขาสูงชันของอุทยานแห่งชาติศรีลานนา โดยมีพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1-3 ล้อมรอบ ดังนั้นการพัฒนาระบบไฟฟ้าในพื้นที่ ด้วยวิธีการปักเสาพาดสายจึงทำได้ยาก และก่อนดำเนินการจำเป็นต้อง จัดทำรายงานศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้เรียบร้อย ซึ่งจะต้องใช้เวลานานและพื้นที่อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ มักจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกระแสไฟฟ้าขัดข้อง ไฟตก ไฟดับ อีกทั้งยังมีแนวโน้มของปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝน จะมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง (ความถี่ของเหตุการณ์ไฟฟ้าดับโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 96 ครั้ง/ปี, ระยะเวลาไฟฟ้าดับรวมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,943 นาที/ปี)

จากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบ ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ประชาชนในพื้นที่ได้แจ้งปัญหาดังกล่าว ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับทราบ และขอให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาการให้บริการไฟฟ้าในพื้นที่ เมื่อ กฟภ. ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว จึงรีบดำเนินการศึกษา และหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว โดยฝ่ายวางแผนระบบไฟฟ้า และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 ภาคเหนือ ได้ร่วมกันศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยคำนึงถึงความรวดเร็วในการดำเนินการ และประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญ พบว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่ ด้วยการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ขนาดใช้งานจริง 3.00 MW/3.00MWh (ติดตั้งกว่า 4MWh) เป็นวิธีที่สามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วที่สุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่

1.เพิ่มความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกล ให้มีพลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพและเพียงพอต่อความต้องการ


2.ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบกักเก็บ พลังงานแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับพลังงานทดแทนที่อาจจะเพิ่มขึ้นในพื้นที่ และเพื่อใช้เป็นแผนงานต้นแบบเพื่อขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆ ที่มีความจำเป็นต่อไป

3.ชะลอการลงทุนก่อสร้างและชะลอ การปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่ผ่านอุทยานแห่งชาติ และลุ่มน้ำชั้น 1

4.แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่มีความมั่นคง ปลอดภัย และเชื่อถือได้มาประยุกต์ใช้งาน

Related Posts

Send this to a friend