“ดูบ้าน กรุ๊ป” เผยธุรกิจโตสวนกระแส ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่
บริษัท ดูบ้าน กรุ๊ป จำกัด ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ เผยธุรกิจโตสวนกระแส ด้วยจุดแข็งโดดเด่นที่ดีไซน์ และการก่อสร้างระดับพรีเมียม ผสานนวัตกรรมล้ำสมัย ล่าสุดเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ “สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน” ส่งผลลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย พร้อมกันนี้คาดด้วยจุดแข็งในทุกมิติ จะหนุนธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าปี 66 ทุกหน่วยธุรกิจ ยอดรวมโตขึ้นอีก 300 ล้าน
ณพิชญา ไกรชวินยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดูบ้าน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ล่าสุด บริษัทได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งมีจุดเริ่มมาจากเราต้องการสร้างมาตรฐานในการก่อสร้างให้กับลูกค้า จึงมองหาสถาบันหรือสมาคม ที่มีมาตรฐานมาเป็นแบบอย่าง เมื่อทราบว่าสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน มีการเปิดรับสมาชิก และทราบถึงข้อกำหนด ทำให้เราเกิดความเชื่อมั่นในสมาคมฯว่า ลูกค้าจะได้รับผลงานที่ดีตามมาตรฐาน ที่บริษัทรับสร้างบ้านควรให้ ที่สำคัญ บริษัทฯ มีการทำงานที่เป็นมาตรฐาน ตามข้อกำหนดของสมาคม”
“ก่อนเข้าร่วมสมาคมฯ เราได้ทำงานอย่างหนัก แก้ไขในข้อผิดพลาด และพัฒนาขั้นตอนการทำงาน ทั้งระบบไม่ว่าจะเป็นบริการก่อน และหลังการขาย การออกแบบไปจนถึงการก่อสร้างให้ดี สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อสมาคมพิจารณา ก็สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาให้ตรวจสอบ รวมถึงได้รับคำแนะนำ จากเจ้าของธุรกิจรับสร้างบ้านชั้นนำของประเทศ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ เพราะเป็นโอกาสที่ยากมากที่เจ้าของธุรกิจ หรือผู้บริหารระดับสูงจะมาเยี่ยมชมบริษัท ไซต์งานก่อสร้าง พร้อมให้คำแนะนำอย่างจริงใจ ตรงไปตรงมาแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่อย่างดูบ้าน”
“การเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ส่งผลดีต่อลูกบ้านของดูบ้าน ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อย่างแรกคือ มาตรฐานของการก่อสร้าง ลูกค้ามั่นใจได้เลยว่า ผลงานของเราถูกสร้างตามหลักวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม โดยมีการตรวจสอบในทุกขั้นตอน และทำตามมาตราฐานของสมาคมรับสร้างบ้าน ข้อที่สองคือ สินเชื่อ ลูกค้าจะได้รับยอดสินเชื่อเต็มจำนวนของยอดก่อสร้าง ทั้งนี้จะเป็นไปตามข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร ซึ่งดูบ้านนับเป็นบริษัทแรกในเชียงใหม่ ที่เป็นสมาชิกในสมาคมฯ โดยลูกค้าที่สร้างบ้านกับสมาชิกที่อยู่ในสมาคมฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์และโปรโมชันพิเศษ ทางด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำ อาทิ ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ (ธนาคารกรุงศรีฯ, SCB, กรุงไทย, กสิกรไทย),การเบิกงวดงานงวดแรก สูงสุด 15%-20% ซึ่งปกติลูกค้าทั่วไปจะได้ 5 % (ธนาคารกสิกรไทย,กรุงไทย), ฟรี ค่าประเมินหลักประกันระหว่างก่อสร้าง (ธนาคารกสิกรไทย, กรุงศรีฯ) เป็นต้น”
“ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีการเติบโตอย่างเป็นลำดับตามเป้าที่วางไว้ มียอดขายกว่า 56 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตต่อเนื่อง ของทุกหน่วยธุรกิจในปี 2566 ไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งเรามั่นใจว่าเป็นไปได้ ด้วยกลยุทธ์และทิศทางการตลาดปีนี้ที่วางไว้ โดยขยายกลุ่มลูกค้าไปยังระดับกลาง-บน และเพิ่มความหลากหลาย ให้กับโปรดักส์ที่มีบริการ ขณะที่งานก่อสร้างเราได้นำหลัก ESG มาปรับใช้ ซึ่งเป็นแนวคิดการดำเนินธุรกิจ ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ไม่มุ่งหวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ สิ่งแวดล้อม,สังคม และธรรมาภิบาล”
“ซึ่งแนวคิดนี้นักลงทุนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อร่วมกันลดการเกิดคาร์บอน หรือการสร้างคาร์บอนเครดิตขึ้นมาทดแทนในสิ่งที่ใช้ไป ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของ Dobaan Property จะมีการ Pre-launch แพลตฟอร์มที่รวบรวมอสังหาริมทรัพย์ของเชียงใหม่ และเมืองหลัก เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา ขอนแก่น และจังหวัดหลักอื่นๆ รวมถึงขยายกลุ่มนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับการซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ในแพลตฟอร์มนี้ ดังนั้น 2 ปัจจัยนี้จึงถือเป็นแกนหลัก ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจของเรา ทั้งจำนวนสมาชิก และยอดขาย”