แอลจี เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 รายได้สูงเป็นประวัติการณ์บริษัท เตรียมขยายพอร์ทด้านธุรกิจ
แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 โดยมีรายได้รวมจำนวน 20 ล้านล้านวอน (ประมาณ 5.38 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 741.9 แสนล้านวอน (ประมาณ 1.99 หมื่นล้านบาท) ถือเป็นรายได้ไตรมาสที่ 2 ที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เริ่มดำเนินบริการบนแพลตฟอร์ม ขยายธุรกิจ B2B อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะพัฒนาร้านค้าออนไลน์ของตัวเองและขายสินค้าให้ผู้บริโภคโดยตรง
กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและโซลูชันเครื่องปรับอากาศ มีรายได้ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 7.99 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2.15 แสนล้านบาท) และมีกำไรจากการดำเนินงาน 600.1 พันล้านวอน (ประมาณ 1.61 หมื่นล้านบาท) มียอดขายเพิ่มขึ้นจากกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง เช่น เครื่องปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมปั๊มความร้อนที่มีประสิทธิภาพ โดยผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีระบบ LG ThinQ UP 2.0 ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีที่ตอบสนองการใช้งานของแต่ละบุคคลขั้น รองรับระบบสมัครสมาชิก และบริการต่าง ๆ
กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ มีผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ที่ 3.15 ล้านล้านวอน (ประมาณ 8.47 หมื่นล้านบาท) และมีผลกำไรจากการดำเนินงาน 123.6 แสนล้านวอน (ประมาณ 3.32 พันล้านบาท) โดยบริษัทตั้งใจที่จะเปลี่ยนผ่านพอร์ทโฟลิโอของธุรกิจทีวีไปเป็น “ผู้ให้บริการสื่อและความบันเทิง” ด้วยการขยายคอนเทนต์ บริการ และโฆษณาในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ พร้อมเปิดตัวทีวี LG SIGNATURE OLED M ขนาด 97 นิ้ว ทีวีไร้สาย ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Zero Connect รุ่นแรกของโลก
กลุ่มธุรกิจโซลูชันชิ้นส่วนยานยนต์ ทำยอดขายในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ที่ 2.66 ล้านล้านวอน (ประมาณ 7.16 หมื่นล้านบาท) นับเป็นรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่สูงที่สุดของบริษัท ส่วนผลกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทอยู่ที่ 89.8 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 2.42 พันล้านบาท) โดยไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ ทำสถิติผลกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ที่สูงที่สุดในแง่ผลประกอบการทางธุรกิจ แต่หากนับรวมค่าใช้จ่ายจำนวน 1.51 แสนล้านวอน (หรือประมาณ 4.06 พันล้านบาท) จากการตั้งงบสำรองจ่ายครั้งเดียว จะทำให้ผลกำไรติดลบจำนวน 61.2 พันล้านวอน (หรือประมาณ 1.65 พันล้านบาท)
กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กร มีรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่ 1.33 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.58 หมื่นล้านบาท) มีผลกำไรจากการดำเนินงาน 2.6 พันล้านวอน (ประมาณ 69.94 ล้านบาท) โดยทั้งรายได้และกำไรจากการดำเนินงานลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการสินค้าไอทีลดลงอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสที่ 3 คาดการณ์ว่าสินค้าไอทีจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก